“เดชอิศม์”รุกแก้ผลกระทบ PM2.5 ดันนวัตกรรมสีเขียวเผาวัสดุการเกษตร

IMG 2321

“ชีวมวลอัดเม็ดแบบเคลื่อนที่ (Mobile biomass pellet system) ซึ่งเป็นนวัตกรรมสีเขียวที่ถูกคิดค้นวิจัยและพัฒนาภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมควบคุมมลพิษกับภาคเอกชน”

กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมสร้างมิติใหม่ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมสีเขียวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษฝุ่น PM 2.5 จากการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ เพื่อคืนลมหายใจสะอาดให้กับคนไทยและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ

วันนี้ (4 มีนาคม 2568) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข ได้สร้างมิติใหม่ในการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5ให้กับประเทศ 

โดยประกาศสนับสนุนส่งเสริมการใช้นวัตกรรมระบบแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นชีวมวลอัดเม็ดแบบเคลื่อนที่ (Mobile biomass pellet system) ซึ่งเป็นนวัตกรรมสีเขียวที่ถูกคิดค้นวิจัยและพัฒนาภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมควบคุมมลพิษกับภาคเอกชน ที่มีขีดความ

สามารถในการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ตอซังฟางข้าว , ต้นเปลือกซังข้าวโพด และใบอ้อยในพื้นที่การเพาะปลูกทั่วประเทศมาแปรรูปเป็นชีวมวลอัดเม็ด ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้สะอาดที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน(carbon neutral)เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดและการผลิตของภาคอุตสาหกรรม 

อันจะทำให้ต่อไปเกษตรกรทั่วประเทศไม่ต้องเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษฝุ่น PM 2.5 จากการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูกได้ 100% และเกษตรกรยังจะได้รับรายได้จากค่าเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้อีก 

ทั้งยังจะส่งเสริมให้เกษตรกรนำพื้นที่เพาะปลูกบางส่วนมาเพราะปลูกไผ่ เพื่อใช้นวัตกรรมดังกล่าวแปรรูปไผ่เป็นชีวมวลอัดเม็ดเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศเพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับประเทศ และเพื่อทำให้เกษตรกรมีรายได้จากไผ่มากกว่ารายได้จากการเพาะปลูกพืชผลเดิม รวมถึงเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าป้องกันอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดสูงชันในภาคเหนือ

นายเดชอิศม์ กล่าวว่าจะเสนอให้มีนโยบายและแผน รวมถึงประสานงานกับกองทุนสีเขียวด้านสิ่งแวดล้อมต่างประเทศเพื่อให้มีการใช้นวัตกรรมดังกล่าว ในการจัดการเศษวัสดุการเกษตรในพื้นที่การเพาะปลูกทั่วประเทศให้เป็นชีวมวลอัดเม็ด เพื่อสร้าง พลังงานสะอาดให้กับประเทศไทยเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุนและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษฝุ่น PM 2.5 จากการเผาเศษวัสดุการเกษตรทั่วประเทศภายในปี 2571  

“การใช้นวัตกรรมสีเขียวเป็นวิธีการเชิงการป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษฝุ่น PM 2.5 จากการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศภายในปี 2571 ดังกล่าว จะทำให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถป้องกันไม่ให้ประชาชนหลายล้านคนต่อปีต้องเจ็บป่วยและอีกหลายหมื่นคนต่อปีไม่ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และทำให้กระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องเสียงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยกว่าหลายแสนล้านบาทต่อปี” นายเดชอิศม์ กล่าว และว่า

การดำเนินการดังกล่าวยังสามารถป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจได้กว่าหลายแสนล้านบาทต่อปี เป็นการคืนลมหายใจสะอาดให้กับประชาชนและพี่น้องทั่วประเทศ รวมถึงยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชากรในอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ยัง สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดจากพลังงานหมุนเวียนชีวมวลอัดเม็ดจากเศษวัสดุการเกษตรดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุน รวมถึงยังทำให้ภาคอุตสาหกรรมส่งออกมีเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดใช้แทนเชื้อเพลิงฟอสซิลลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนป้องกันการถูกกีดกันทางการค้าจากมาตรการกำแพงภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนข้ามแดน(CBAM) สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สำนักงานส่งเสริมการลงทุนสำนักนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *