“นายกสุพิศ” ยันทำงานเต็มที่ หลังมติเป็นเอกฉันท์ ให้ได้รับเลือกเป็น “กรรมการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา” ชี้ “สนทช.” มีแต่นักวิชาการ ตั้งเป้าเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน

19 มีนาคม 2568 ที่ชั้น 5 โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกอบจ.สงขลาพร้อม นายธนิศร์ ทองสุข เลขานุการฯ,นางปิยนันท์ สิงห์ทอง รองปลัดฯรักษาราชการแทน ปลัดอบจ.สงขลา และ นายชัยวัฒน์ จันทวี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 4 เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการลุ่มน้ำ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดสงขลา ในเขตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง) การประชุมดังกล่าว เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการลุ่มน้ำ
ตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดแนวทาง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการได้มาของคณะกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพื่อคัดเลือกกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตลุ่มน้ำพื้นที่จังหวัดสงขลา (ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง) จากกรณีที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ครบวาระการดํารงตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 90 คน ได้แก่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัด ผู้บริหารสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ วิทยากร และผู้สังเกตการณ์ซึ่งผลการคัดเลือกกรรมการลุ่มน้ำ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดสงขลา ในเขตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (ทดแทนตำแหน่งว่าง) นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้รับคัดเลือกด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์



นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการที่ไว้ใจเลือกให้ตนเป็นตัวแทนฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาอปท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดและรู้ปัญหาของพื้นที่ แต่ไม่สามารถนำเสนอ โครงการเพื่อของบประมาณหรือแม้แต่เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้เลย จึงทำให้ที่ผ่านมาการบูรณาการในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในจังหวัดสงขลา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำได้อย่างยั่งยืน “ในขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีความเห็นในเชิงวิชาการ แต่ในทาง


ปฏิบัติ บางเรื่องก็ไม่สามารถทำได้ ทำให้ประชาชนในจังหวัดสงขลาต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง มาตลอดเนื่องจากการปฏิบัติตามหลักวิชาการ ของสนทช. บางครั้งก็ไม่สอดคล้องกับปัญหาและบริบท ในแต่ละพื้นที่ ทำให้ที่ผ่านไม่สามารถแก้ไขปัญหา น้ำท่วมน้ำแล้งได้” นายสุพิศ กล่าว และว่าตนจึงตั้งใจที่จะเข้าไปโดยใช้บทบาทหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนในการผลักดัน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยการขุดลอกคูคลอง ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อระบายน้ำอย่างเป็นระบบ ส่วนปัญหาน้ำแล้ง จะแก้ไขโดยหาแหล่งน้ำใน
พื้นที่เพื่อบริโภค อุปโภค และใช้ในเกษตรกรรมให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนต่อไป นายกสุพิศ กล่าวทั้งนี้ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ได้กำหนดให้มีองค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งในระดับประเทศและระดับลุ่มน้ำ ซึ่งมาตรา 27 กำหนดให้มีคณะกรรมการลุ่มน้ำ โดยมีองค์ประกอบ
ประกอบด้วย
(1) กรรมการลุ่มน้ำโดยตำแหน่ง (2) กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (3) กรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และ (4) กรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ
การได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำฯ ดังกล่าว ให้ ปฏิบัติตามกฎกระทรวง การได้มาซึ่งผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม


