ผู้นำ “ผู้สูงอายุ” รองอธิการบดี ม.อ. และผู้บริหารท้องถิ่นเชื่อมั่น “รมต.เดชอิศม์” เป็นรมช.มหาดไทย เกิดประโยชน์ต่อจังหวัดสงขลา และภาคใต้ จากผลงาน รมช.สธ. และประสบการณ์คนท้องถิ่น ทั้งแนะนำให้เร่งสร้างผลงาน
พลอยเรือโจรไปเอาทรัพยากรที่ถูกกม.
อ.นิยม ชูชื่น นายกสมาคมเครือข่ายสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลเป็นเสมือนดาบสองคมว่า เราควรเลือกคมที่มีประโยชน์ ดึงประโยชน์ส่วนที่ดีออกมา อยู่ที่คนจะใช้ประโยชน์จากมีดนั้น
จากที่ดูประวัติถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์จะมีจำนวน สส.ในภาคใต้มากที่สุดก็จริง แต่การเป็นรัฐบาลน้อยมาก โอกาสที่ดึงทรัพยากรเฉพาะหรือพิเศษออกมาค่อนข้างยาก จะได้แต่งบประมาณทั่วไปที่หน่วยงานราชการจัดสรรมา เพราะฉะนั้น นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ตนห็นด้วยในการร่วมรัฐบาล มองว่าคิดถูกแล้ว
“การที่ท่านเดชอิศม์ ขาวทอง รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอบรับความเจ็บปวดกับการประชดประชันของหลายฝ่ายว่าต้องเอาผลงานเข้าแลก รักษาบาดแผลในส่วนนั้นและทุกอย่างดีเอง” อ.นิยม กล่าว และว่า
เราไม่ได้พายเรือให้โจรนั่ง อย่างที่หลายคนเปรียบเทียบ แต่ความจริงแล้วเราไม่ได้พายเรือให้โจรนั่ง แต่พลอยเรือโจรไปเอาทรัพยากรที่ถูกกฎหมายมาดูแลประชาชนและการพัฒนาพื้นที่ ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
“ผมมองว่าคิดถูกที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ เพราะว่าถ้าไม่ร่วมรัฐบาลในโอกาสนี้ ไม่รู้ว่าสมัยหน้าจะมีโอกาสร่วมอีกเมื่อไหร่ หรือที่เรียกว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก ที่สำคัญเข้าไปแล้วอย่าโกง อย่าหาประโยชน์ อย่าทำการทุจริต แต่เข้าไปแล้วทำประโยชน์ให้ประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่โอกาสและมีระยะเวลา”
ความคาดหวังของชาวสงขลา ท่านเดชอิศม์ในบทบาท สส. นายก อบจ.สงขลา และรัฐมนตรี มีความเข้าใจพื้นที่และรู้ปัญหาเป็นอย่างดี สามารถมองเห็นสิ่งที่จะสามารถพัฒนาเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน อยากให้ประชาชนเปิดใจเพื่อเปิดโอกาสที่จะทำประโยชน์ให้กับพื้นที่
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยหน้าต้องรปรับตัวและรื้อโครงสร้างใหม่ เซ็ตระบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้คนหนุ่มสาวเข้ามาขับเคลื่อนพรรค พรรคใหม่ยังเกิดได้ พรรคประชาธิปัตย์ เกิดมาแล้ว 70 ปี แล้วทำไมจะอยู่ไม่ได้เพราะโครงสร้างที่ดีอยู่แล้ว และคนส่วนหนึ่งยังศรัทธาให้ความไว้วางใจ
“ท่านเดชอิศม์รัฐมนตรีมาแล้ว 1 กระทรวง ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่เคยถูกกล่าวหา และไม่เคยถูกร้องเรียน แล้วเราจะเอารัฐมนตรีแบบไหน”
การที่เป็น สส.ฝ่ายค้าน เข้ามาประชุมแล้วเดินออก ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้การที่เข้าร่วม
รัฐบาล สามารถเข้าไปเป็นขับเคลื่อนนโยบายบำบัดทุกข์บำรุงสุขในบทบาทที่รับผิดชอบ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเกิดประโยชน์กับประชาชนได้
“ถ้ารัฐมนตรีไม่หาประโยชน์ ผมเชื่อว่าท่านเดชอิศม์ ทำได้ดีอย่างแน่นอน ต้องดูว่าเข้าไปทำงานแล้วมีประโยชน์หรือไม่ ผมคิดว่าชาวสงขลา ยังให้โอกาสและยังศรัทธาอยู่” อ.นิยม กล่าว
รองอธิการฯม.อ.แนะ3ข้อ-เร่งสร้างผลงาน
ผศ.ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ กล่าวว่า ในเรื่องต้องมองเป็น 2 มิติ คือ ท่านเป็น สส. จังหวัดสงขลา ส่วนใครจะชอบหรือไม่ชอบเป็นสิทธิส่วนบุคคล
อีกมิติหนึ่งในฐานะเป็นรัฐมนตรี ท่านได้ทำประโยชน์อะไรพื้นที่จังหวัดสงขลา หรือกระทรวงสาธารณสุข ดูกันที่ผลงาน ถ้าท่านมีผลงานเป็นรูปธรรมให้จังหวัดสงขลา คนจังหวัดสงขลาก็ชื่นชมท่านในผลงาน แต่ถ้าไม่มีผลงานไม่เกิดประโยชน์กับพื้นที่คิดว่าก็น่าเสียดาย
สำหรับตำแหน่งใหม่ที่ท่านได้รับ ตำแหน่งนี้มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับท้องถิ่น คิดว่าท่านมีโอกาสได้ทำ จะเป็นประโยชน์ให้กับจังหวัดสงขลาได้มาก เป็นโอกาสที่ดีของจังหวัดสงขลา คาดว่าท่านจะมีโครงการหรือมุมมองที่อยู่ในใจในการพัฒนาท้องถิ่นในตำแหน่งที่ท่านได้รับแล้ว
“ผมไม่แน่ใจว่าตำแหน่งที่ท่านได้รับจะอยู่นานหรือไม่ในเสถียรภาพทางการเมือง ผมเลยคิดว่าท่านต้องเร่งทำผลงานให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าท่านเป็นคนจังหวัดสงขลาที่ทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่นของตัวเอง ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายของรัฐมนตรีเดชอิศม์”
ในการเข้าร่วมรัฐบาล ถ้าร่วมรัฐบาลแล้วทำประโยชน์อะไรให้กับพื้นที่ มองตรงนี้เป็นประเด็นหลักว่าทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ร่วมรัฐบาลแล้วสามารถพัฒนาคนพัฒนาพื้นที่ได้ ถือว่าเกิดประโยชน์ แต่ถ้าทำไม่ได้ถือว่าการร่วมรัฐบาลไม่มีประโยชน์
สำหรับสิ่งที่คาดหวังแบ่งเป็น 3 เรื่องคือ 1. การพัฒนาท้องถิ่น การกระจายอำนาจท้องถิ่น อยากให้ทำกันอย่างชัดเจน เมื่อกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นได้ดี เศรษฐกิจ และสังคมก็จะดีตามไปด้วย
2 การพัฒนาเศรษฐกิจ การส่งเสริมให้เพิ่มอาชีพให้กับคนท้องถิ่นพื้นที่ และ 3. การพัฒนาด้านสังคม อยากให้ยาเสพติด ลดน้อยลง สังคมและเศรษฐกิจจะดีขึ้นตามไปด้วย
“นายกวันชัย”เป็นโอกาสพัฒนาสงขลา
นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่า การที่ท่านเดชอิศม์ ขาวทอง ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ในการจัดสรรงบประมาณผู้ที่มีอำนาจหรือดูแลจัดสรรเรื่องงบประมาณส่วนหนึ่งก็คือ รัฐมนตรี ถ้าเป็นคนในพื้นที่สงขลาเป็นรัฐมนตรีก็สามารถนำปัญหามาแก้ไขได้อย่างท่วงที เพราะมีอำนาจอยู่ในมืออยู่แล้ว
การที่เป็นรัฐมนตรีก็จะมีโอกาสที่จะนำ ปัญหาไปสานต่อ ขึ้นอยู่กับว่าได้รับมอบหมายดูแลในส่วนไหนบ้าง อย่างน้อยในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการจะทำให้ข้าราชการมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
“ถือเป็นโอกาสดีของคนสงขลาที่ได้มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ สามารถผลักดันโครงการที่จะเป็นประโยชน์ให้กับจังหวัดสงขลาได้มากขึ้น”
สิ่งที่คาดหวังคือ การกระจายอำนาจ เพราะทุกวันนี้ท้องถิ่นงบประมาณแทบจะไม่พอ รายได้ของท้องถิ่นมาจากการจัดเก็บภาษีในพื้นที่ ในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลไม่สามารถขับเคลื่อน การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจได้ ท้องถิ่นก็จะมีรายได้น้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นปัญหา
“อยากจะฝากเรื่องการกระจายอำนาจ การกระจายงบประมาณให้กับท้องถิ่นมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ เพราะท้องถิ่นใกล้กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด และเป็นตัวแทนที่ใกล้ชิดกับพื้นที่มากที่สุดอยากให้ส่วนกลางให้ความสำคัญกับท้องถิ่น พร้อมกับสนุนงบประมาณให้กับท้องถิ่น นำมาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่”
นายกวันชัย กล่าวต่อว่า การที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ตนมองว่าไม่มีนักการเมืองพรรคไหนอยากเป็นฝ่ายค้าน แต่ละคนนำเสนอนโยบายเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน เพื่อเข้าไปเป็นฝ่ายบริหารทั้งนั้น ฉะนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน และในช่วงที่มีโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาล ทำไมเราไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะพัฒนาจังหวัดและภาคใต้ของเราได้มากขึ้นกว่าเดิม
“นายกสิทธิ์”ชี้ โอกาสคนสงขลา-ท้องถิ่น
นายประสิทธิ์ แก้วมรกต นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งลาน อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลากล่าวว่า การที่ประชาชนเลือกผู้แทนราษฏรเพื่อต้องการให้เป็นรัฐบาลที่ดำเนินการในด้านงบประมาณ และด้านต่าง ๆ ลงมาสู่ท้องถิ่น เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสของครสงขลาเพราะเราได้มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น การบริหารประเทศ ต้องนำลงสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น
“ท่านเดชอิศม์ มาจากคนท้องถิ่น ในส่วนของท้องถิ่นสงขลาหรือภาคใต้จะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะเรามีรัฐมนตรีเป็นคนสงขลา”
นอกจากนั้น ท่านได้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมหลายเรื่อง อย่างงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ฐานรากที่ไม่มีการเกลี่ยให้กับ อบต. หรือเทศบาลตำบลซึ่งมีความไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ในฐานะท้องถิ่นมีความคาดหวังในเรื่องการกระจายอำนาจ หวังว่าในระดับประเทศจะได้รับความเป็นธรรม ความตั้งใจของท่านเดชอิศม์ที่ได้ปรารภไว้ว่า “เน้นการกระจายอำนาจ เพราะมองว่า ประเทศจะพัฒนาได้ ท้องถิ่นต้องเข้มแข็ง”
การกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นได้มากเท่าไหร่ ประเทศก็จะมีความมั่นคง และคนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้ปัญหาท้องที่ได้ดีที่สุด ไม่มีราชการส่วนไหนที่ดูแลท้องถิ่นได้ดีกว่าคนในท้องถิ่นนั้น ๆ
“การที่เข้าร่วมรัฐบาลผมมองว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่สงขลาและภาคใต้ ซึ่งท่านเป็นเสาหลัก ความมุ่งมั่นตั้งใจของท่านในการทำงานระดับประเทศ ต้องเกิดประโยชน์ อย่างสูงสุดแน่นอน ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะท่านเข้าไปดูแลในส่วนของงบประมาณต่าง ๆ มีอำนาจอนุมัติ หรือสั่งการ ผมเชื่อว่าชาวสงขลาจะได้ประโยชน์ทางตรงอย่างแน่นอน และไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเลือกผู้แทนราษฎรเข้าไปเพื่อเป็นฝ่ายค้าน”
“นายกแบงค์”ผลงานที่สธ.ชัด-หนุนร่วมรัฐบาล
นายวัชชพล ปริสุทธิ์กุล หรือ ”นายกแบงค์”นายกเทศมนตรีเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ท่านเดชอิศม์ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะผลงานที่ผ่านมาของท่านในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คนสงขลาได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะเป็น โครงการโรงพยาบาลหาดใหญ่ 2, อาคารโรงพยาบาลสะเดา มูลค่า 460 กว่าล้านบาทได้รับการอนุมัติแล้ว
ถือเป็นการผลักดันโครงการขนาดใหญ่ที่ในวงการสาธารณสุข ได้รับการจัดสรรงบประมาณแบบก้าวกระโดด ท่านมีความตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ที่จะ ปราสานงบประมาณมาลงในพื้นที่
สิ่งที่คาดหวัง อยากให้เกิดการผลักดันหลายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินหรืองบประมาณในการพัฒนาเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้า
“การเข้าร่วมรัฐบาล ผมมองว่า ผลงานที่ท่านทำเอาไว้ให้กับประชาชน เป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลโอกาสพัฒนาของชาวสงขลาคงจะหายไปเยอะเลย จากการเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะฉะนั้น ผมมองว่า
เป็นฝ่ายรัฐบาลแล้วทำให้เมืองมีความเจริญ เป็นสิ่งที่จำเป็น และถูกต้องแล้ว” นายกแบงค์ กล่าว
