“สส.สุรินทร์”ร่วมคนเลี้ยงนกจชต.รวมพลังปลดล็อก“นกกรงหัวจุก”

web 16

“คนเลี้ยงนก” 5 จังหวัดชายแดนใต้ แสดงพลัง เรียกร้องปลดล๊อคนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เรียกร้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ เร่งรัดดำเนินการ คาด 2 เดือนชัดเจน

วันที่ 20 ตุลาคม 2567 กลุ่มผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขนหรือนกกรงหัวจุกใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับพันคน เดินทางนำนกมาร่วมประชันเสียง ที่สนามโรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์ อ.จะนะ จ.สงขลา ภายใต้ กิจกรรม “สานฝันถอดถอนนกกรงหัวจุกไทย“ ร่วมแสดงพลัง เรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งขับเคลื่อนการปลดล๊อค นกกรงหัวจุก ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง

นายอิบรอฮีม อ้นบุตร ประธานชมรมผู้เลี้ยงนกและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ชมรมผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เริ่มขับเคลื่อนในการปลดล๊อค นกกรงหัวจุกมา ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยได้นำรายชื่อเกือบ 2 แสนรายชื่อ ของกลุ่มผู้เลี้ยงนกและการประกอบอาชีพที่เกี่ยวเนื่องจากการเลี้ยงนกกรงหัวจุก ไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยืนยันถึงความจำเป็นที่จะปลดล๊อค เพื่อให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เป็น soft power ของจังหวัดชายแดนภาคใต้

”ยืนยันไม่สนับสนุนการนำนกป่า มาซื้อ-ขาย หรือนำมาเลี้ยง“ นายอิบรอฮีม กล่าว และว่า

กลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกต่างรอความหวัง ในการปลดล๊อค เพื่อที่จะพัฒนาการเลี้ยง ให้ได้นกที่มีคุณภาพ เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่นำรายได้มาสู่ผู้เพาะเลี้ยงและอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง

“วันนี้การเพาะเลี้ยงนกกรงหัวจุกพัฒนาไปไกลมาก นกสวยงาม อย่างนกกรงหัวจุกที่มีสีขาว ที่เคยหายาก ราคาสูง ก็มีการเพาะเลี้ยงกันได้มากขึ้น ทำให้มีราคาที่จับต้องได้”

นายอิบรอฮีม กล่าวด้วยว่า วันนี้ผู้เกี่ยวข้องกับนกกรงหัวจุก นอกจากกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงแล้ว ยังมีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องอีกจำนวนมาก ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วย ปลูกมะละกอ มาจนถึง ผู้เพาะเลี้ยงหนอนนก ผู้ปลูกไม้ ผู้ทำกรงนก อาชีพตัดเย็บผ้าคลุมกรงนก อีกจำนวนมาก จึงมองว่า รัฐบาลควรจะเร่งรัดปลดล๊อคนกกรงหัวจุก เพื่อให้มาเป็นสัตว์เศรษฐกิจโดยเร็ว

ด้าน พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.เขต 8 สงขลา/รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ืซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ขับเคลื่อนการปลดล๊อคนกกรงหัวจุก เรียกร้อง ไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เร่งรัดดำเนินการปลดล๊อค เพื่อให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในอีก 2 เดือนจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้

”ปัจจุบัน นกกรงหัวจุกมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจ ต้องการซื้อนกกรงหัวจุก แต่ติดที่ยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ทำให้ไม่สามารถซื้อขาย ส่งออกได้อย่างถูกต้อง โดยนกกรงหัวจุกคุณภาพ จะมีราคาหลักแสน ไปจนถึงหลายล้านบาท“ สส.สุรินทร์ กล่าว และว่า

หลายภาคส่วนได้ร่วมกันผลักดันการถอดบัญชีนกปรอดหัวโขน ซึ่งก็คือ “นกกรงหัวจุก” ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามพระราชบัญญัติการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *