ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับคณะผู้นำศาสนา(ดาอี) จังหวัดนราธิวาส ตาม โครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง กองทัพเรือ ประจำปี 2567”

วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการกล่าวต้อนรับ และมอบของที่ระลึก ให้แก่คณะผู้นำศาสนา (ดาอี) ประจำปี 2567 จำนวน 30 คน ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม กรุงเทพมหานคร โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ การเข้าพบผู้บัญชาการทหารเรือ นอกจากเป็นการสร้างความประทับใจให้กับคณะผู้นำศาสนา (ดาอี) แล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใย ของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ที่มีต่อคณะผู้นำศาสนา (ดาอี) พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกด้วย

โครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง กองทัพเรือ ได้มีการดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548 เป็นต้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ และเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งปลูกฝังความรักชาติและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยให้แก่ คณะเยาวชนและคณะผู้นำศาสนา (ดาอี) ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานของ หน่วยเฉพาะกินาวิกโยธินกองทัพเรือ ได้แก่ อ.บาเจาะ อ.ยื่งอ อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโกลก จว.นราธิวาส ซึ่งได้เดินทางมาทัศนศึกษาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุน โครงการฯ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 และมัสยิดยามีอุลค็อยรียะห์ ซึ่งในปีงบประมาณ 2556 กองทัพเรือ ได้อนุมัติขยายกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินโครงการฯ โดยเชิญคณะผู้นำศาสนา(ดาอี) ในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ เข้าร่วมโครงการฯ โดยกำหนดการจัดกิจกรรมฯ จำนวน 1 ครั้ง ต่อปี ทั้งนี้ โครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง กองทัพเรือ ประจำปี 2567 ได้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน- 6 พฤษภาคม 2567

วันเดียวกัน คณะดาอี ผู้เผยแพร่.. ได้ไปยังมัสยิดต้นสน” ตั้งอยู่ที่ 447 ซอยวัดหงส์รัตนาราม ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ เพื่อพบปะและเยี่ยมชม วืถีชีวิตการอยู่ร่วมกัน ของความหลากหลายพหุวัฒนธรรม ได้อย่างสันติสุข
และในบริเวณใกล้เคียงมัสยิดต้นสน ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง “วัดหงส์รัตนาราม” ซึ่งมีพระพุทธรูปทองโบราณสมัยสุโขทัยอันงดงามยิ่ง และ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ซึ่งเชื่อว่าบริเวณที่ตั้งศาลนั้นเป็นจุดที่พระโลหิตของสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงหยดลงบนพื้น จึงต้องมีการสร้างศาลขึ้น เป็นชุมชนวิถีชีวิต พหุวัฒนาธรรมอย่างสงบสุข ท่านอีกหม่ามให้ใช้คำว่า วิถีความเป็นอยู่ชีวิตในรูปแบบ นานาชาติ
จากนั้นคณะฯ ได้ไปเยี่ยมชมอาคารรัฐสภาใหม่ เพื่อดูการจัดการ ในระบบรัฐสภาไทย ที่มีผู้แทนราษฎร์ และสมาชิกวุฒิสภาทำหน้าที่แทนประชาชน เพื่อพัฒนาประเทศชาติผ่านรัฐสภาดังกล่าว










