กรณีความขัดแย้งของคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาขยายวงกว้างมากขึ้น เมื่อเรื่อง ”ผลประโยชน์“ เป็นต้นเหตุ ทำให้หลายฝ่ายพยายามเข้ามาเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในศาลเจ้าฯ
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้เชิญคณะกรรมการศาลเจ้าฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาหารือแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
“เป็นความขัดแย้งระหว่างกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกับคณะกรรมการสมาคมฮกเกี้ยน” นายกวันชัย กล่าว และว่า
จากการหารือมีข้อสรุปให้อำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อหลักเมืองโดยตรง จัดทำประชาคม เพื่อเลือกคณะกรรมการ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขึ้นใหม่ โดยให้ทางอำเภอเมืองสงขลาเจรจากับคณะกรรมการ(ชุดเก่า) และชุดปัจจุบัน ให้ทั้งสองฝ่ายลาออก เพื่อเลือก คณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขึ้นมาใหม่ โดยมีชาวบ้านมาร่วมทำประชาคม
ซึ่งจะนำข้อสรุปดังกล่าวรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเพื่อดำเนินการทำประชาคมต่อไป เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย
“คณะกรรมการชุดเก่าบางคน ไม่ยอมออกจากตำแหน่ง โดยไม่มีเหตุผลเมื่อมีปัญหาความไม่ไว้ใจกัน ในฐานะคนสงขลาอยากจะให้ทุกคนเสียสละยอมถอยกันคนละก้าว เพราะในเมื่อต่างคนต่างปรารถนาดี ต่อศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ก็ต้องยอมรับกติกากัน”
นายกวันชัย กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ตนมองว่า ฐานะคนรุ่นเก่าสิ่งที่ต้องทำคือ การวางรากฐานที่ถูกต้องให้กัยคนรุ่นใหม่สานงานต่อ ไม่ใช่มาหวงอำนาจเอาไว้ ประกอบกับความไม่ชัดเจนของการจัดเก็บรายได้ของศาลเจ้าฯ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับศาลเจ้าฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเคารพและสักการะบูชา
“ที่สำคัญในย่านเมืองเก่าจะมีการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเป็นเมืองมรดกโลกหากคนในชุมชนไม่สามัคคีกัน มาขัดแย้งกันเอง สร้างผลเสียให้กับภ่ภาพลักษณ์ของเมืองเป็นอย่างมาก” นายกวันชัย กล่าว
