‘ดร.ชาติชาย’เซ็นทรัลกรุ๊ป!ศิษย์เก่าดีเด่นรัฐศาสตร์ม.อ.“วันนี้สำเร็จ ขอทำเพื่อส่วนรวม”

cadddd

คอลัมน์ PSU Alumni Talk โดย สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฉบับนี้ แวะมาคุยกับนักพัฒนาทรัพยากร​บุคคล​ ศิษย์เก่าดีเด่น ปี 2540 ด้านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และอาชีพ รหัส 23 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิชาเอกรัฐศาสตร์ ม.อ.​ วิทยาเขตปัตตานี​

S 25854030

ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ์ หรือ “ดร.มด” ที่ปรึกษาเซ็นทรัลกรุ๊ป ในวัย 63 ปี ที่ยังทำงานที่นี่ หลังเกษียณในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส​ Sustainable Development Office CentralGroup เล่าว่า​ เป็นคน​กรุงเทพฯ​ จบ​ มศ.5​ ที่​โรงเรียนอัสสัมชัญ​ บางรัก​ และเป็น “เด็กกิจกรรม” มาตั้งแต่เล็ก ๆ และทำ​มาโดยตลอด​ ประกอบกับเป็นนักกีฬาฟุตบอล​ และเป็น “สาราณียกร” ของโรงเรีย​น​ จัดทำหนังสือสำหรับผู้เรียนจบ​ประจำโรงเรียนด้วย​

“เรียกได้ว่าชีวิต​จะเน้นกิจกรรม​ คลุกคลีกับโรงพิมพ์​ ยิ่งช่วง​มศ.5​ ไม่ได้จับหนังสือ​เรียนเท่าไหร่​นัก”

ส่วนตัวชอบนิติศาสตร์​ หรือรัฐศาสตร์​ จึงสอบเอ็นทรานซ์​ และเลือกสาขาวิชาเอกรัฐศาสตร์​ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี​ เป็นอันดับสุดท้าย ตอนแรกไม่คิดจะไปเรียน​ ด้วยระยะทางที่ไกล​ แต่คุณพ่อพูดว่า​ “เป็นลูกผู้ชายจะกลัวอะไร”​ จึงเป็นที่มาในการตัดสินใจ​มาเรียนที่ม.อ.

S 25854019 0 1

เมื่อเข้ามาเรียนรู้สึกชอบ​ มีเพื่อนที่ดี​ มีอิสระ​ มีกิจกรรมให้ทำ​มากมาย​ และสามารถที่จะเรียนจบ 3​ ปีครึ่ง​ได้ ในช่วงปิดเทอมปี​ 3-4​ ไม่กลับบ้านเลย เพราะสนุกกับการใช้ชีวิตที่มหาวิทยาลัย

เทอมแรกแทบไม่เข้าเรียน​ แต่สอบได้​เกรด 2.98และมาเรียนจริงจังตอนปี​ 4​ เพราะอาจารย์​ที่ปรึกษา​มาตามให้เข้าเรียน​ จึงกลับมาตั้งใจเรียน ชีวิตในม.อ. มีความสนุกสนาน ท่ามกลาง​เพื่อน​ ๆ​ และอาจารย์ที่อบอุ่น แม้จะจบได้ในสามปีครึ่ง แต่ก็เลือกที่จะเรียนจบสี่ปี

“สำหรับผมใบปริญญา​เป็นเพียงสัญลักษณ์​ว่าเรียนจบการศึกษา สิ่งที่ผมได้จาก​ ม.อ.ปัตตานี​ มีมากมายจนผมบรรยายด้วยคำพูดไม่​หมด”

4​ สิ่งที่มีคุณค่า​ที่ได้เรียนรู้​จากรั้ว​ ม.อ. ปัตตานีคือ​ 1.​ การได้เรียนรู้​ความหลากหลายทางวัฒนธรรม​ เสน่ห์​ของพหุวัฒนธรรม​ ได้เรียนรู้ปรับตัวเข้าด้วยกัน​ มีเพื่อนต่างวัฒนธรรม​ ทำให้สนุกมาก​ 2.​ การเรียนรู้​ในการดูแลตัวเอง​ การมีวินัย​ เคารพตัวเอง​ เคารพคนรอบข้าง 3.​ ​ความเป็นเพื่อน​ ที่ดูแลช่วยเหลือ​กัน​ มิตรภาพ​ที่ดีซึ่งกันและกันจนถึงปัจจุบัน​ และ​ 4.​ ครู​อาจารย์​ ที่เป็นทุกอย่างให้กับลูกศิษย์​ ให้ความรักเสมือนเป็นลูกคนหนึ่ง​ คอยเตือนสติและให้ความรู้

“สภาพแวดล้อมของ​ ม.อ. ปัตตานี ในสมัยนั้นให้อะไรในชีวิตผมมากมาย​ แม้จะไปเรียนต่อปริญญาโท​และปริญญาเอก​ที่อเมริกา ยังสามารถ​นำสิ่งที่ได้เรียน​รู้​ ได้ประสบการณ์​ และได้ชีวิตจาก​ ม.อ.ของเราไปปรับใช้ได้อย่างสบายมาก”

S 25854014 0

หลังจากเรียนจบที่ม.อ.ปัตตานี ได้ไปทำงานที่สำนักพิมพ์​ 1-2​ ปี​ เป็นฝ่ายบรรณาธิการ​ เขียนคอลัมน์​ ด้วยพื้นฐานที่คลุกคลี​กับหนังสือ​มาตั้งแต่ขณะเรียนมัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย จากนั้น เปลี่ยน​สายไปช่วยธุรกิจ​ของพี่ชาย​ ควบคู่​กับการเป็นผู้ช่วย​ ส.ส.​ กระทั่งไปเรียนต่อปริญญาโท​ รัฐ​ศาสตร์​ และปริญญา​เอก​ที่ต่างประเทศ​ ด้วยความขยันตั้งใจทำให้ได้ทุนเรียนฟรี​ รวมถึงเป็นผู้ช่วยอาจารย์​จนเรียนจบ

กลับมาจากต่างประเทศ​ เพื่อนชักชวนไปทำงานที่เซ็นทรัล​ ควบคู่​กับการสอนนักศึกษา​ระดับปริญญาโท​ ที่มหาวิทยาลัย​เกษมบัณฑิต​ และยังมีวิทยานิพนธ์​ปริญญาเอกที่ยังเขียนไม่จบ​ จึงโอนเครดิตมาเรียนต่อที่จุฬาลงกรณ์​มหาวิทยาลัย​ ​ทั้งการเรียน​ ทำงาน​ และเขียนวิทยานิพนธ์จนจบในที่สุด​

หลังจากจบปริญญาเอก​ก็ได้เป็นอาจารย์​สอนมากขึ้น​ พร้อมทำงานประจำในฐานะผู้บริหารด้านทรัพยากร​มนุษย์ของกลุ่ม​บริษัท​เซ็น​ทรัลมาร่วม​ 30​ ปี จนถึง​ปัจจุบัน

“เดิมดำรงตำแหน่ง​รองกรรมการผู้จัดการ​ใหญ่​อาวุโส​ เนื่องด้วยอายุ​ 63​ ปี​ เมื่อ​ 2​ เดือนที่แล้ว​ จึงได้เปลี่ยน​บทบาทหน้าที่เป็นที่ปรึกษา​เซ็นทรัล​ กรุ๊ป”

ดร.ชาติชาย กล่าวว่า 4 ปีในมหาวิทยาลัย ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาว ที่ต้องยอมรับความแตกต่าง​ มีการต่อสู้กับตัวเองและสภาพ​แวดล้อม​ หล่อหลอม​ให้มีวินัย​และรับผิดชอบตัวเอง​

S 25854022 0

“ผมนำสิ่งที่ได้จาก​ ม.อ.มาปรับใช้ในชีวิต ทั้งการเรียนและการทำงาน​ นับว่าผมประสบความสำเร็จ​ค่อนข้าง​มาก​ ม.อ.ปัตตานี​สอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่​ ตรงต่อเวลา​ และด้วยความเป็นลูกพระบิดา เราถูกสอนมาให้ยึดประโยชน์​ของเพื่อนมนุษย์​เป็นกิจที่หนึ่ง​ กล่อมเกลาให้ผมนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก​”

กลุ่มเช็นทรัลได้รับมอบหมาย​ให้ทำงานทางด้านสังคม​ อาทิ การสนับสนุนการศึกษา​ของกลุ่มเปราะบาง​ หรือร่วมกิจกรรมสังคมต่าง ๆ กับภาค​รัฐ​มีส่วนร่วม​ในการทำประโยชน์​ให้สังคม​ เราไม่ได้​นึกถึงตัวเอง​ แต่นึกถึงสังคมที่มี​ความสุขอย่างยั่งยืน​

ได้กลับไปช่วยโรงเรียนอัสสัมชัญ สมาคมอัสสัมชัญ และสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ เป็นระยะเวลาหลายปี ​ตำแหน่งล่าสุดเป็นอดีตนายกสมาคมผู้ปกครอง​และครูโรงเรียนอัสสัมชัญ ทางโรงเรียน​ก็ยกย่องให้เป็น “อัสสัมชนิกดีเด่น”

ผลงาน​ที่ภูมิใจ​ในฐาน​ะศิษย์​เก่าอัสสัมชัญ​ ได้เป็นประธานและผู้จัดงานแปรอักษร​เป็นภาพในหลวง รัชกาล​ที่​ 9​ ใช้เวลา​ 9​ วันในการแปรอักษร​ออกมา​ 9​ ภาพ​ ถวายอาลัย​น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นข่าวดังทั่วโลก​ ซึ่งโรงเรียนอัสสัมชัญเป็นต้นกำเนิดในการแปรอักษร

สำหรับบทบาทใน​ ม.อ.​ ได้ทำงานให้กับศิษย์​เก่า​ ม.อ.ปัตตานี​ รวมถึงทำงานให้กับมหาวิทยาลัย​ ในฐานะ “คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย”​ 2 – 3​ สมัย​ และได้่รับรางวัล​ศิษย์เก่า​ดีเด่น​ ด้าน​ผู้ประสบความสำเร็จ​ในหน้าที่​การงาน​ ในวาระครบรอบ​ 40​ ปี​

“ผมมีความภาคภูมิใจที่เป็นหนึ่งใน 40​ ศิษย์​เก่าดีเด่นรุ่นแรกของม.อ.”

ดร.ชาติชาย กล่าวถึงม.อ. ว่า ภาพรวมของ “สงขลานครินทร์” เป็นมหาวิทยาลัย​ที่อยู่​ในระดับแนวหน้า ทุกวิทยาเขต​มีส่วนสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย​ สามารถ​เทียบเคียงกับมหาวิทยาลัย​อื่น​ ๆ​ ได้

สิ่งที่อยากเห็นภาพของมหาวิทยาลั​ยเป็นผู้นำในด้านต่าง​ๆ​ ในการพัฒนา​สังคมภาคใต้​ของเราอย่างยั่งยื​น​ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ​ในบางพื้นที่​ ความยั่งยืน​ในด้านต่าง​ๆ​ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริหาร​มหาวิทยาลัย​ รวมถึงศิษย์​เก่าพยายามทำ​มาโดยตลอด แต่ยังไม่ชัดเจนมากนัก

ถ้าเราสามารถ​ยกระดับ​ตัวเองได้​ ต้องเกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลั​ย​ ประชาคม​ม.อ.ของเรา​ สมาคม​ศิษย์เก่า​ทุกคณะ​ ทุกวิทยาเขต​ ร่วมมือกันอย่างจริงจัง​ เป็น​ super​ vision รวมของ​ ม.อ.​ เชื่อว่าเราจะยืนในระดับแนวหน้า​ของประเทศ​ มีบทบาทสำคัญ​ในการพัฒนา​สังคม​และ​ประเทศ​

โดยเฉพาะ​ในภาคใต้​ ม.อ.จะต้องอยู่ในอันดับต้นๆ ในลิตส์ของการพัฒนา​ด้านต่าง​ ๆ​ สิ่งเหล่านี้​จะสร้างความเข้มแข็ง​ และสร้างการยอมรับจากสังคม

“ความฝันของผม อยากเห็น​ ม.อ.เป็นต้นแบบ​ชั้นนำ​ เป็น​ Top 3​ ของการพัฒนา​ภาค​ใต้อย่างยั่งยื​นและจริงจัง”

ในส่วนของภาค​ใต้ ที่มีทรัพยากร​ทุก​ ​ๆ​ ด้าน เป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์​ และน่าสนใจ​มาก​ แต่ยังมีปัญหา​ความขัดแย้งที่ยังเป็นอุปสรรค​

“20​ ปีที่แล้วได้จัดทำโครงการ​ โดยนำนักศึกษา​จาก​ ม.อ.ปัตตานี​ มาฝึกงานในบริษัท​ของกลุ่มเซ็นทรัล​ ในทุกปีมาโดยตลอด​ ปีล่าสุดมีน้อง​ ๆ​ ม.อ.​ กว่า​ 10​ คน​ มาฝึกงานสหกิจ 3​-4 เดือน​ ส่วนใหญ่​เป็นมุสลิม​ ซึ่งเป็นความตั้งใจให้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วม​กันอย่าง​มีความสุข​ ทำให้​มีมุมมองที่ดีต่อการอยู่ร่วมกันของพวกเราในประเทศ​ไทย”

ดร.ชาติชาย กล่าวด้วยว่า ตนอยู่ในแวดวงด้านทรัพยากร​บุคคลมากว่า​ 30​ ปี​ ทำงานในกลุ่ม​บริษัท​เซ็นทรัล​ เริ่มต้น​จากการดูแล​ยูนิต​หนึ่ง​ 1,000​ กว่าค​นที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบมากขึ้น​ 5,000-6,000 คน​ จนขยับมาดูแลทั้งกรุ๊ป​ 60,000 กว่าคน​ ได้มีโอกาสรับเชิญให้เป็นวิทยากร​ในการบริหารจัดการคน​ ทั้งในและต่างประเทศ​มากมาย​ โดยนำประสบการณ์​ในการทำงาน​ การเรียน​ การใช้ชีวิตอยู่​กับคนที่หลากหลาย​มาใช้ในชีิวิตประจำวัน

“จุดแข็งของผม​ คือ​ สามารถทำงานกับคนได้หลากหลาย​ ทั้งศาสนา​ เชื้อชาติ​ ผมได้ประสบการณ์​เหล่านี้​จากรั้ว​ ม.อ.ทั้งสิ้น โดยใช้ชีวิตเรียบง่าย พอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ หรือฟุ่มเฟือย”​

ปัจจุบัน แม้จะถือว่าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และชีวิตครอบครัวแล้ว แม้หลังจากนี้จะลดการทำงานหนักลง​ แต่ก็ตั้งเป้าหมาย​ที่จะทำประโยชน์​ให้สังคม​ สถาบัน​การศึกษา​ โดยเฉพาะ​มหาวิทยาลัยสงขลา​นครินทร์​ และประเทศชาติ​

“ความสุขของผมคือ​ การได้เป็นวิทยากร​เป็นอาจารย์​ถ่ายทอด​ความรู้​ให้นิสิตนักศึกษา​จนกว่าจะหมดแรง” ดร.ชาติชาย กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *