เช้าวันนี้ (25 กรกฎาคม 2566) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา กรณีนายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กรณีถูกกล่าวหาดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ “พระพุทธมงคลมหาราช” ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547
โดยได้อ่านคำพิพากษากลับ จากก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 และล่าสุดในวันนี้ ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา ให้ลงโทษจำคุก เป็นเวลา 9 ปี เนื่องจากเห็นว่ามีการกระทำผิดหลายกรรม และริบเงินที่เกี่ยวข้องในมูลนิธิสิรินธรราชวิทยาลัย จำนวน 20 ล้านบาท
ซึ่ง นายไพร พัฒโน ถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 กรณีโครงการของเทศบาลนครหาดใหญ่ ในการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระพุทธมงคลมหาราช พระประจำเมืองหาดใหญ่ เมื่อปี 2547
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหา นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กับพวกรวม 28 ราย กรณีถูกกล่าวหาว่า ในการดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 โดยขอจ่ายขาดเงินสะสมของเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวนกว่า 20 ล้านบาท โดยทำหนังสือขออนุมัติเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2547 เพื่อนำใปใช้ในการดำเนินโครงการ กรณีนี้ไม่ใช่กิจการที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ นายไพรจึงไม่มีอำนาจที่จะเสนอโครงการดังกล่าวต่อสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ และสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ก็ไม่มีอำนาจอนุมัติเงินจำนวนนี้ได้ แต่ปรากฏว่า สภาเทศบาลนครหาดใหญ่กลับอนุมัติให้จ่ายขาดเงินดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2547 ทั้ง ๆ ที่ไม่มีกฎหมาย หนังสือ ระเบียบ หรือข้อบังคับจากกระทรวงมหาดไทยรองรับมาก่อน
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ สืบทราบมาว่า รายได้ที่ได้จากการเปิดให้เช่าวัตถุมงคลดังกล่าว ไม่ได้ถูกนำไปบูรณะซ่อมแซม องค์พระประจำเมืองนครหาดใหญ่ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่ามีมูลความผิดทางอาญา และทำให้เกิดความเสียหายต่อเทศบาล
ทั้งนี้ นายไพร พัฒโน เป็นอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 สมัย ก่อนที่จะลาออกลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และล่าสุดลงสมัครสส.เขต 3 สงขลา สังกัดพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคม 2566 แต่สอบตก