เปิดสภา อบจ.เมืองคอนให้ ”นายกน้ำ“ แถลงนโยบายเพื่อมีอำนาจเต็มในการสั่งการช่วยเหลือฟื้นฟูฯ หลังน้ำท่วมขณะที่ ”บิณฑ์ บันลือฤทธิ์“ นำมูลนิธิร่วมกตัญญูลุยกรุงชิงในจุด ที่การช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง ด้านรองแม่ทัพภาคที่ 4 ระดมสรรพกำลังฟื้นฟูเส้นทางการคมนาคม
19 ธันวาคม 2567 สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชทั้ง 23 อำเภอ ที่ระดับน้ำจะลดลงมากแล้วแต่ในหลายอำเภอซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม ยังมีน้ำท่วมขัง ในระดับที่สูงกว่า 1 เมตร ผู้ประสบภัยจำนวนมากยังไม่สามารถออกจากพื้นที่หรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
โดยที่หมู่ 7 และหมู่ 8 บ้านทับน้ำเต้า ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ ถนนสายหลักสายเดียวที่มีอยู่ในหมู่บ้านถูกน้ำตัดขาดจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ขณะที่บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนพังเสียหายหลายหลัง
ล่าสุด คณะของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญูที่ลงมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมได้เดินทางลุงไปตรวจเยี่ยม ซึ่งพบว่าในบางจุดยังมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านยังออกจากบ้านไปไหนไม่ได้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในขณะที่การช่วยเหลือของทางราชการยังเข้าไปไม่ถึง เพื่อให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพและน้ำดื่มของมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นโดยครอบครัวที่มีผู้พิการคนชราหรือ แม่ลูกอ่อน”พระเอกบิณฑ์“ จะควักเงินส่วนตัวมอบให้รายละ 1-2 พันบาท
ด้าน พลตรี อนุสรณ์ โออุไร รอมแม่ทัพภาคที่4/รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติกองทัพภาคที่ 4 เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงเส้นทางสัญจร ระบบการสื่อสาร ระบบพลังงาน ระบบการจัดการน้ำในตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ โดยมีหน่วยทหารในพื้นที่ ส่วนราชการท้องถิ่น และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือในครั้งนี้
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติกองทัพภาคที่ 4 พร้อมให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วนราชการและหน่วยงานในท้องที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อการช่วยเหลือพร้อมวางแผน ดำเนินการเส้นทางสัญจรกลับมาใช้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติจากนั้นได้ลงพื้นที่ไปยังถนนทางเข้าวัดห้วยตงพัฒนาราม ที่ถนนขาดประชาชนสัญจรไม่ได้ พร้อมมอบสิ่งของอุปโภค และยาเวชภัณฑ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ส่วนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการเปิดสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้นางสาววาริน ชิณวงศ์ หรือ “นายกน้ำ”นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชคนใหม่ ได้มีอำนาจเต็มในการปฏิบัติหน้าที่ฯ เพื่อให้สามารถ บริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจะหมดวาระในวันเดียวกันนี้(19 ธ.ค.)
ซึ่งหลังจากการแถลง นโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเสร็จสิ้น นางสาววาริน ชิณวงศ์ ได้แต่งตั้งทีมบริหารทั้งรองนายก ฯ เลขานุการฯ และที่ปรึกษา จากนั้น จึงเรียกประชุมทีมบริหาร ฯและหัวหน้าส่วนราชการในอบจ.นครศรีธรรมราชทันที
โดย นางดุษฎี จันทร์พุ่ม ปลัดอบจ.นครศรีธรรมราช ได้นำคณะหัวหน้าส่วนฯ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง
ทั้งนี้ นางสาววาริน ชิณวงศ์ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรกล ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั้งหมด ก่อนสั่งการให้นำลงพื้นที่เพื่อเร่งปรับปรุงซ่อมแซมฟื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน อย่างน้อยที่สุดให้สามารถสัญจรไปมาได้ทุกเส้นทาง
นางสาววาริน ยังสั่งการ กำชับ กลับหัวหน้าส่วนราชการว่า ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจในการ บริการช่วยเหลือประชาชนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน และไม่ต้องมีพิธีรีตอง ใด ๆ กับตนเอง ไม่ต้องมีการตั้งแถวต้อนรับ ไม่ต้องมีการจัดสำรับกับข้าวเป็นกรณีพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น
”น้ำไม่ได้มีอภิสิทธิ์หรือวิถีความเป็นอยู่ วิถีการดำรงชีพที่เหนือกว่าประชาชน ตนเป็นคนธรรมดาเหมือนกับประชาชนทุกคนตุ่นไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับตำแหน่ง และไม่ได้เข้ามาใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่มาเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด“ นายกน้ำ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สิ่งที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ ในการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมในครั้งนี้คือ ปัญหาขยะและสิ่งปฏิกูลจำนวนมหาศาลที่ตามปกติ ก็มีปัญหาเรื่อง สถานที่ทิ้งและกำจัดขยะ ที่แต่ละท้องถิ่นจะต้องหาทางแก้ไขปัญหากันเอง แต่เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในครั้งนี้มีขยะและสิ่ง ปฏิกูลจำนวนมหาศาลทั่วจังหวัดหลายแสนตัน
เกี่ยวดับเรื่องนี้ นายกน้ำ จะเรียกประชุมทีมบริหารและหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป