ปิดตำนาน“พระยันตระ” ญาติ-ศิษย์เตรียมนำร่างกลับไทย

IMG 2451

เพจเฟซบุ๊ก ‘Suññataram California Monastery PhraAjahn Yantra Amaro’ โพสต์แจ้งข่าว ‘อดีตพระยันตระ’ หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เสียชีวิตแล้ว โดยระบุว่า

“ขอน้อมถวายความอาลัย น้อมส่งหลวงพ่อสู่พระนิพพาน พระอาจารย์ยันตระ อมโร ประธานสงฆ์และผู้นำทางจิตวิญญาณวัดสุญญตาราม ได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ณ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้แคลิฟอร์เนีย สิริรวมอายุ 73 ปี พรรษา 51” 

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ เหล่าลูกศิษย์แห่อาลัย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีการเผยแพร่ภาพอดีตพระยันตระ เดินทางกลับมาประเทศไทย เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา เดินทางมาลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์เดินทางมาต้อนรับจำนวนหนึ่ง

ทั้งมีภาพอดีตพระยันตระ เดินทางไปรับประทานอาหาร และพบปะลูกศิษย์ที่บ้านพักของลูกศิษย์หลายๆ คน ซึ่งก็มีคนเข้ามาพบจำนวนมาก ที่ยังคงให้ความเคารพและเลื่อมใสศรัทธาอดีตพระยันตระ

โดยอดีตพระยันตระ เดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา และมาถึงสนามบินสุวรรณภูมือ เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 6 ก.พ.

วันที่ 7 ก.พ. ไปฉันเพลบ้านโยมสิริกร วันที่ 8 ก.พ.ฉันเพลที่บ้านโยมอุษา วันที่ 9 ก.พ.ฉันเพลบ้านโยมประยูร (เตี่ย) ราชบุรี หลังเพลไปงานบวชชีโยมศิริพร ณ วัดศรีสุริยวงศ์ ราชบุรี ไปเยี่ยมโยมอุไรที่นครชัยศรี นครปฐม

วันที่ 11 ก.พ. ฉันเพลร้านข้าวแดงแกงร้อน โยมปิ่น วันที่ 12 ก.พ.ฉันเพลบ้านโยมพิชัย ปราจีนบุรี วันที่ 14-25 ก.พ. ไปอินเดีย วันที่ 1 มี.ค. ไปเยี่ยมโยมครรชิต หลังเพล และวันที่ 2 มี.ค. ฉันเพล วัดท่ามะกอก ระยอง

อดีตพระยันตระ หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2494 ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เขาเริ่มต้นชีวิตทางธรรมด้วยการปฏิบัติตนเป็นฤาษี ก่อนที่จะอุปสมบทเป็นภิกษุในนิกายธรรมยุติ เมื่อปี 2517 โดยใช้ชื่อว่า”พระยันตระ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไกลจากกิเลส”

พระยันตระ มีชื่อเสียงโด่งดังจากการเผยแพร่คำสอนและการสร้างลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วัดป่าสุญญตารามในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเขาได้รับการยอมรับจากญาติโยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ได้เกิดมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมถึงการล่อลวงหญิงสาวและมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน ในปี 2537 มหาเถรสมาคมมีมติให้เขาพ้นจากความเป็นภิกษุ และเขาได้หนีออกนอกประเทศไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา พร้อมเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ก็ยังถูกครหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์

หลังจากเหตุการณ์นั้น พระยันตระได้รับสถานะผู้ลี้ภัยและเปิดสำนักสุญญตารามในเมืองเอสคอนดิโด รัฐแคลิฟอร์เนียโดยก่อนหน้านี้ เขาเลือกที่จะสวมจีวรสีเขียว จึงทำให้สื่อมวลชนตั้งฉายาให้เขาว่า “จิ้งเขียว” และ “สมียันดะ” เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการท้าทายต่อพระธรรมวินัย

เขาใช้ชีวิตในต่างประเทศกว่า 20 ปี จนกระทั่งคดีหมดอายุความในปี 2557 และจึงได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย

เมื่อกลับมาที่ไทยครั้งแรก อดีตพระยันตระยังคงมีผู้คนจำนวนมากที่เคารพนับถือเขา แม้จะมีการวิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งกายและสถานะของเขา โดยเขายืนยันว่าตนยังคงมีสถานะเป็นพระ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นฆราวาสแล้ว Cr ;ผู้จัดการออนไลน์

แม้นอดีตพระยันตระจะต้องพ้นจากความเป็นพระโดยมติมหาเถรสมาคม แต่อดีตพระยันตระยังคงปฏิบัติตนเช่นพระสงฆ์ทั่วไป และถือศีลเหมือนพระสงฆ์ทุกอย่าง ยังเป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์จำนวนมาก ครั้งอดีตลูกศิษย์ยังจำนวนมากยังยอมกินฉี่พระยันตระ นักการเมืองดังหลายคนศรัทธาพระยันตระ และกินฉี่พระยันตระ เช่น วีระ มุสิกะพงศ์ เป็นต้น

ทางญาติและลูกศิษย์กำลังเตรียมการนำร่างของพระยันตระกลับมาบำเพ็ญกุศลในไทย แต่จะตั้งศพที่ไหนยังไม่ยืนยัน

#นายหัวไทร

https://vt.tiktok.com/ZSMqoy2kd

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *