เครือข่ายภาคประชาสงขลารุดตรวจสอบฐานเจดีย์เขาน้อยอายุ 1400 ปี หลังเจอฝนหนัก พบหินและดินทรุดตัวลงมาหนัก เสี่ยงถล่ม อัดหน่วยงานรัฐเพิกเฉย เรียกร้องนายกให้ความสำคัญกับโบราณสถานไม่ให้หน่อยว่าเศรษฐกิจ
นายบรรจง นะแส ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสงขลา นำทีม เดินเท้าเข้าไปสำรวจสภาพความเสียหายของโบราณสถานเขาน้อย อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ในจุดที่ถูกขุดดินลูกรังออกไปจนเป็นหลุมลึก ซึ่งขอบที่ถูกขุดนั้นห่างจากฐานเจดีย์เขาน้อยอายุ 1400 ปี ที่ถือเป็นโบราณสถานสำคัญ เพียง 34 เมตร หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์
โดยพบว่าสภาพบริเวณฐานเจดีย์นั้น มีน้ำแช่ขังบริเวณหลุมที่ถูกขุด มีร่องรอยดินที่ทรุดตัวลงมา เช่นเดียวกับหินขนาดใหญ่ที่ผุกร่อนจากความชื้นของน้ำฝน ร่วงหล่นลงมาในปริมาณมาก
ในขณะที่สภาพของดินภูเขาน้อยนั้น มีความชื้นและอุ้มน้ำ ทำให้มีความกังวลว่า อาจจะมีการทรุดตัวของหินและดินเพิ่มมากขึ้นจนกระทบกับฐานเจดีย์ 1400 ปี
นายบรรจง ระบุว่า ฤดูฝนปีนี้นั้นมีฝนตกหนัก จนทำให้เกิดปัญหาการทรุดตัวที่รุนแรงกว่าปีก่อน ซึ่งสร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย
“วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อธิบกรมศิลปากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม หรือ แม้แต่นายกรัฐมนตรี ควรที่จะหันกลับมาให้ความสำคัญกับโบราณสถานสำคัญที่นี่ หลังจากที่ปล่อยให้มีความเสี่ยงมาแล้ว 1 ฤดูกาล งบประมาณลดผลกระทบที่สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ทำโครงการเสนอไป 12 ล้านบาทเศษ ทราบมาว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในปีงบประมาณ 2568 แต่หากรอจนถึงวันนั้น หากฐานเจดีย์ 1400 ปี ทรุดตัวพังลงมา ถามว่าใครจะรับผิดชอบ” นายบรรจงกล่าวและว่า
“ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ประกาศให้อำเภอสิงหนคร เป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินกรณีอุทกภัย/วาตภัย ตรงนี้จะสามารถจัดสรรงบประมาณบางส่วน มาช่วยป้องกันการทรุดตัวของดินที่เขาน้อยนี้ได้หรือไม่ เพื่อลดผลกระทบเฉพาะหน้าระหว่างรองบประมาณในปี 2568 เพราะเวลานี้เราจะละเลย เพิกเฉย รอเวลาให้ฐานเจดีย์ทรุดตัวลงมา เสียหายก่อนอย่างนั้นหรือ”
สำหรับภูเขาน้อยเป็นที่ตั้งของวัดภูเขาน้อย ซึ่งปรากฏซากโบราณสถานเนื่องในพระพุทธศาสนา ชาวบ้านเรียกกันโดยทั่วไปว่า พระเจดีย์เขาน้อย สภาพในปัจจุบันเหลือเพียงส่วนฐานเจดีย์หลักฐานทางโบราณคดีและรูปแบบของเจดีย์สันนิษฐานในเบื้องต้นได้ว่าบริเวณเขาน้อยน่าจะเป็นพุทธสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งบริเวณปลายคาบสมุทรสทิงพระ มาตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๘ และมีความสำคัญสืบต่อมาจนถึงสมัยอยุธยา
กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานภูเขาน้อย (ทั้งลูกและประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานบริเวณเมืองสงขลาเก่า โบราณสถานภูเขาน้อยจึงได้รับการกำหนดเขตที่ดินใหม่รวมเข้ากับกลุ่มโบราณสถานบริเวณเมืองสงขลาเก่าซึ่งมีพื้นที่รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 2460 ไร่
