‘กรอ.สงขลา’มอบขนส่งจังหวัดบังคับ“รถบัสมาเลย์”ทำประกันชั้น3

เฟรมข่าวไอเน็ท เว็บ เปลี่ยน 23

หนังสือพิมพ์ภูมิภาค รายสัปดาห์ ของคนใต้ ปีที่ 26 ฉบับที่ 1,329 วันที่ 1 – 7 เมษายน 2567

image 8

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เสนอกรอ. ให้รถบัสมาเลเซียทำประกันชั้น 3 หลังเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนนักศึกษาเสียชีวิต แต่ความคุ้มครองต่อชีวิตและทรัพย์สินแค่ พ.ร.บ. ย้ำเมื่อดูแลนักท่องเที่ยวอย่างดี ก็ต้องดูแลคนไทยด้วย ที่ประชุมมอบขนส่งจังหวัดดำเนินการ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเห็นด้วย ชี้เป็นความจำเป็น

การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา (กรอ.) ครั้งที่ 2/2567 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา มีนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายอภิชาต สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

S 83132422 0


นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ได้นำเสนอต่อที่ประชุม กรณีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุ รถบัสมาเลเซียเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าวัดปลักกริมใน ถนนพลพิชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นนักศึกษา คณะศิลปะศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว มหา
วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยเสียชีวิต ว่า กรณีดังกล่าว กลายเป็นประเด็นว่าในส่วนของรถบัสมาเลเซียมีประกันแค่ พ.ร.บ.ซึ่งดูแลผู้เสียชีวิตค่อนข้างน้อย ในทางกลับกันเวลาเราไปเที่ยวมาเลเซียอย่างน้อยเราจะต้องชื้อประกันชั้น 3 จึงอยากจะนำเสนอว่า กรณีที่รถบัสจากมาเลเซียเข้ามา


ในพื้นที่จังหวัดสงขลา อยากจะให้มีการซื้อประกันชั้น 3 เพื่อดูแลกรณีเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย “เราเองเราดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ในกรณีที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ของเรา ฉะนั้น เราก็จะต้องดูแลคนไทยด้วยเช่นกัน ในการที่จะให้เขาซื้อ
ประกันชั้น 3 กรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตจะได้รับการคุ้มครองมากกว่า พ.ร.บ.”
จึงอยากนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา เพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อไป


ซึ่งที่ประชุม กรอ. สงขลา มีมติให้รถบัสโดยสารมาเลเซียที่นำมาผู้โดยสารเข้ามาในเขตพื้นที่เรา ให้ทำประกันชั้น 3 และมอบหมายให้ “สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา” ไปดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อคุ้มครองและดูแลกรณีเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือเสียชีวิต
นายทรงชัย มุ่งประสิทธิชัย นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความชุ่ยของรัฐบาลคือ ไม่เอาไหน “วัวหายแล้วมาล้อมคอก” ตนเคยเสนอเรื่องนี้มาเป็นเวลานับ 10 ปีมาแล้ว
“คุณจะไปโทษรถบัสได้อย่างไรว่า เขาไม่ซื้อประกันประเภทที่ 3 ก็ในเมื่อประเทศไทยเราไม่มีบริษัทประกันไหนรับทำประกันประเภทที่ 3 ให้กับรถต่างชาติ เขาอยากจะซื้อ แต่เราไม่มี”

S 83132419 0 0


แต่หลังจากเกิดเหตุก็บอกว่า ถึงเวลาแล้วที่เรา จะต้องให้รถบัสมาเลเซียที่เข้ามาประเทศจะต้องซื้อประกันประเภทที่ 3 แต่ก่อนปี 2557 หรือก่อนปี 2555 มีการซื้อประกันประเภทที่ 3 ได้ แต่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาบริษัทประกันไม่รับที่จะให้รถมาเลเซียซื้อ
ประกันประเภทที่ 3 โดยอ้างว่ามีความเสี่ยงสูง ฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้จะให้เขาไปซื้อที่ไหน หรือซื้อที่ใคร ในเมื่อบริษัทประกันไม่รับ
“ถามว่าเป็นความผิดของไทย เป็นความผิดของเขาเหรอที่ไม่ซื้อประกันประเภทที่ 3 เราน่าจะละอายใจที่เขาขนเงินมาให้เราใช้ แต่เราไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เขาเลย” ต่างกับรถไทยเวลาที่จะเข้าไปในประเทศมาเลเซียเราจะต้องซื้อประกันประเภทที่ 3 ที่ชายแดน
ฝั่งเขาได้เลย จะซื้อประกันระยะเวลากี่วัน ก็มีให้เลือก แต่ของเรามีบริษัทประกันภัยบริษัทหนึ่ง(ไม่อยากเอ่ย
ชื่อ)กำหนดว่า ถ้าจะซื้อต้องระยะเวลา 6 เดือน ประกันประเภทที่ 3 ราคา 26,000 บาท ซึ่งสูงมาก
“เขาขายระยะเวลาขั้นต่ำ 6 เดือน ถ้าต่ำกว่า 6 เดือนเขาไม่ขาย แล้วถามว่ารถบัสมาเลเซีย 2 เดือนเขาเข้ามา 1 ครั้ง 3 เดือนเข้ามา 1 ครั้ง แล้วเขาต้องมาซื้อประกัน 26,000 บาท ถ้าเป็นคุณ ๆ จะซื้อมั๊ย”


อีกอย่าง เราก็ไม่มีการบังคับการซื้อประกันประเภทที่ 3 สำหรับรถมาเลเซีย บังคับเฉพาะประกัน พ.ร.บ.เท่านั้น ฉะนั้น ก็ต้องถามรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า แล้วทำไมถึงไม่บังคับใช้รถมาเลเซียทำประกันประเภทที่ 3
แต่ก่อนปี 2557 มีหลายบริษัทประกันของไทยที่รับทำประกันประเภทที่ 3 สำหรับรถมาเลเซีย ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ประมาณ 1,600-2,000 บาท จนกระทั่งปี 2557 เป็นต้นมา บริษัทประกันที่ไม่รับ “รถบัสมาเลเซียที่เข้ามา 100-200 คันในช่วงวันหยุดหรือเทศกาล เกิดเหตุเฉี่ยวชนไม่ถึง 5 คันด้วยซ้ำ แล้วจะมาอ้างว่ามีความเสี่ยงสูงได้อย่างไร”

S 83132421 0 0


ในขณะที่รถไทยเข้าไปในประเทศมาเลเซียจะถูกบังคับทำประกันประเภทที่ 3 ทุกคัน ตามกฎหมาย มีให้เลือกจะซื้อกี่วัน 7 วัน 10 วัน 1 เดือน ไม่มีรถจากไทยคันไหนที่เข้าไปมาเลเซียแล้ว ไม่ทำประกันประเภทที่ 3 ราคาก็ไม่แพง 100 กว่าริงกิตหรือ 1,000
กว่าบาท เวลาเกิดอุบัติเหตุจะมีวงเงินคุ้มครองคูกรณีที่เหมาะสม “ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับการบังคับให้รถมาเลเซียที่เข้ามาประเทศไทยทำประกันประเภทที่ 3 รอให้เกิดเรื่องขึ้นก่อนแล้วค่อยมาคิดแก้ไขกัน” นายทรงชัย กล่าว


ด้าน นายสุวัฒน์ เพชรวโรทัย กรรมการฝ่ายขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ หอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ต้นเรื่องก่อนหน้านี้เคยมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียขับรถชนคนของทางหลวงที่กำลังทาสีข้างถนนเสียชีวิต 5 คน คดีนี้จบที่ได้รับการช่วยเหลือจากพ.ร.บ.ศพละ 300,000 บาท จึงทำให้รู้สึกว่าเราต้องทำ เพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ของเราด้วยเพราะการที่เขาทำแค่ประกันตาม พ.ร.บ.เขาจ่ายแค่ 300 กว่าบาท มันไม่ครอบคลุมและเหมาะสมสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่ กรณีเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
“วันนี้ประจวบเหมาะหลังจากเกิดเหตุล่าสุด ทำให้มีการผลักดันเรื่องนี้เข้าที่ประชุม กรอ. เพื่อให้รถบัสมาเลเซียต้องซื้อประกันประเภทที่ 3”
ถ้าเทียบการที่รถไทยเข้าไปในประเทศมาเลเซียเราจะต้องซื้อประกันประเภทที่ 3 แปลว่าไม่ว่าเกิดเหตุอะไรก็ตามเราก็มีประกันชั้น 3 คุ้มครองอยู่แล้ว ซึ่งการทำประกันประเภทที่ 3 ในประเทศมาเลเซียสำหรับรถไทยที่เข้าไปในระยะเวลา 1 เดือนก็ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทอย่างแน่นอน
“แต่รถมาเลเซียที่เข้มาบ้านเราเขาซื้อแค่ พ.ร.บ. อย่างเดียว ไม่ต้องซื้อประกันประเภทที่ 3 ได้ คือเราไม่มีภาคบังคับเรื่องประกันให้เขา” นายสุวัฒน์ กล่าว และว่าที่นำเสนอคือจะให้มีการนำร่องการประกันประเภทที่ 3 สำหรับรถบัสมาเลเซียที่วิ่งประจำกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ก่อน แล้วค่อยขยายไปยังรถบัสนำเที่ยวและรถประเภทอื่น ๆจริง ๆ แล้วมันควรจะเป็น ไม่ได้พูดในฐานะใด ๆ


เราพูดในฐานะคนสงขลา คนพื้นที่ คนที่จะเข้ามาเขาควรจะมีประกันประเภทที่ 3 เพราะเวลาเกิดเหตุจะมีความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น
“เรื่องนี้ผมเห็นด้วยเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ว่ารถต่างชาติทุกคันที่เข้ามาในจังหวัดสงขลาหรือประเทศไทยควรจะซื้อประกันประเภทที่ 3 เป็นอย่างน้อย”รวมถึงรถจักรยายนต์ต่างชาติที่เข้ามา จริง ๆ ก็ควรจะต้องซื้อประกันประเภทที่ 3 ด้วย โดยมองไปที่เรื่องความปลอดภัยของผู้ทำประกันที่จะเกิดกับตัวเองและคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติ จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเหมาะสม
“มันเป็นเรื่องความปลอดภัยของคนในพื้นที่ก็คือควรจะมีมาตรฐานที่ทำให้คนในพื้นที่ปลอดภัย”
“ถามว่า ถ้าหากคนที่เรารู้จักถูกรถมาเลย์ชนแล้วจ่ายค่าทำศพแค่ 300,000 บาท คิดว่าคุ้มมั๊ย ถ้าเป็นคนที่เรารู้จัก เราไม่โคเอนะ อย่างน้อยต้องมี 1 ล้านบาท” นายสุวัฒน์ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *