“ผมมีบัญชีรายชื่อการรื้อถอนโพงพางและไซนั่งครบทุกราย มีการเซ็นรับเงินไว้เป็นหลักฐาน” นายธำรงค์ เจริญกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวกับ “สงขลาโฟกัส” กรณีที่ชาวบ้านหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา บอกสื่อว่า การรื้อโพงพางเมื่อปี พ.ศ.2558 จ่ายเงินไม่ครบ และว่า

การดำเนินการครั้งนั้น เรารื้อถอนโพงพางืและจ่ายเฉพาะที่อยู่กลางร่องน้ำจริงๆ เพราะต้องการให้เรือวิ่งสวนทางไปมาได้สะดวก มิได้ทำการรื้อถอนทุกช่องโพงพางที่อยู่ในรัศมี 300 เมตรแต่ประการใดและไม่ได้จ่ายให้ทุกรายที่ร้องขอ
ดังนั้น จำนวนโพงพางที่รื้อและจ่ายเงินมีเพียง 32 ช่องเท่านั้น โดยรื้อถอนแถงโพงพางที่ปักยื่นเข้าถึงกึ่งกลางร่องน้ำ ซึ่งกีดขวางทางเรือเดิน บางแถวรื้อถอนออกเพียง 1-2-3 ช่องเท่านั้น มิได้รื้อหมดทั้งแถว เพราะเงินเยียวยามีไม่พอจ่าย

ทั้งนี้ เพื่อให้เรือวิ่งได้สะดวก และจ่ายเงินในราคาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่่กับขนาดโพงพาง และที่ตั้ง ซึ่งมีความลึกของร่องน้ำต่างกัน
“โพงพางปักซิกแซ็ก ทำให้เรือสินค้าและเรือของทางราชการวิ่งไม่ได้ เราต้องเปิดร่องน้ำให้เป็นทางตรง ให้เรือวิ่งได้สะดวก และปลอดภัย”
นอกจากโพงพางแล้ว ยังได้รื้อถอน และจ่ายค่าเยียวยาให้ไซนั่งที่อยู่ในแนวร่องน้ำจากท่าประมงใหม่ จนถึงสะพานติณสูลานนท์ จำนวน 124 ช่อง ๆ ละ 22,000 บาท

ผู้ว่าฯ ธำรงค์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการในครั้งนั้น แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนในการเดินเรือมานาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพ่อค้านักธุรกิจให้การช่วยเหลือเป็นเงินทั้งสิ้้น 11 ล้านบาท และตนได้จ่ายขณะดำเนินการให้ทุกราย และได้ให้ผู้รับเงินลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน
“เรื่องนี้ หากหน่วยงานมี่เกี่ยวข้องไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ผมเคลียร์ร่องน้ำเสร็จแล้ว และชาวบ้านก็รับเงินไปแล้วไม่มาปักโพงพาง และไซนั่งอีก ก็ไม่เป็นปัญหามาถึงวันนี้” ผู้ว่าฯ ธำรงค์ กล่าว