กรมฝนหลวงฯ เจ้าภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการดัดแปรสภาพอากาศระดับภูมิภาคอาเซียน ประจำปี 2567 ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนา วิจัยและปฏิบัติการการดัดแปรสภาพอากาศ และสร้างความเข้มแข็งภายใต้กรอบความร่วมมือ “AWMC”
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการถาวรของศูนย์การดัดแปรสภาพอากาศอาเซียน (ASEAN Weather Modification Centre :AWMC) เป็นเจ้าภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการดัดแปรสภาพอากาศระดับภูมิภาคอาเซียน
ประจำปี 2567 (ASEAN Regional Seminar on Weather Modification 2024) ในวันที่ 18 – 22 ตุลาคม 2567


โดยวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการดัดแปรสภาพอากาศระดับภูมิภาคอาเซียน ประจำปี 2567 (ASEAN Regional Seminar on Weather Modification 2024) มี นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนหน่วยงานความร่วมมือ และผู้แทนหน่วยงานร่วมบูรณาการเข้าร่วม ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากประเด็นเรื่องน้ำที่มี ความสำคัญมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากปัญหาภาวะโลกร้อน หรือปัจจุบันได้ยกระดับเป็นภาวะโลกเดือดแล้ว
ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างสุดขั้ว อันนำมาสู่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่า จะเป็นภัยแล้ง หรือน้ำท่วม สภาวะเหล่านี้ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำและอาหาร ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้น
“ความจำเป็นที่ต้องรักษาแหล่งทรัพยากรน้ำและอาหารนี้ให้คงอยู่ การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นอีกหนึ่งทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว”
การดัดแปรสภาพอากาศจึงเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยเพิ่มปริมาณฝนในพื้นที่แห้งแล้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและความท้าทายดังกล่าวในระยะยาว ประเทศไทยนับว่าโชคดีที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริโครงการฝนหลวง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน


โดยกรมฝนหลวงฯ ได้สนองและสืบสาน พระราชประสงค์ในการช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ เพื่อความอยู่ดี กินดีและมีความสุขตลอดจนมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีฝนหลวง ควบคู่กับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สำหรับนำมาใช้ในการป้องกัน บรรเทาความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมทั้งร่วมสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้ภาคการเกษตร และรักษาระบบนิเวศของประเทศด้วย

นายสุพิศ กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการอาเซียนด้านอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์ (ASEAN SCMG) ครั้งที่ 41 ได้จัดการประชุม ระหว่างวันที่ 6 – 8 ตุลาคม 2562 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ และเห็นชอบในการผลักดันความร่วมมือด้านการดัดแปรสภาพอากาศในภูมิภาคอาเซียน โดยจัดตั้งศูนย์การดัดแปรสภาพอากาศอาเซียน (ASEAN Weather Modification Centre : AWMC) อันจะเป็นศูนย์การแลกเปลี่ยน และหารือ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาภัยแล้ง และสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำร่วมกันในภูมิภาคต่อไป
ซึ่งประเทศไทย โดยกรมฝนหลวงฯ ได้รับหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานหลักในการจัดทำหลักการและขอบเขตการทำงานของ AWMC ต่อมาที่ประชุมASEAN SCMG ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16ตุลาคม 2566 ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ได้อนุมัติหลักการและขอบเขตการทำงานของ AWMC ดังกล่าวพร้อมทั้งได้รับความเห็นชอบโดยคณะกรรมการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (ASEAN Committee on Science, Technology and Innovation – COSTI) เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566
การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ วันที่ 18 – 22 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรมอัศวินแกรนด์ คอนเวนชันกรุงเทพฯ โรงแรมดีวารี พัทยา และการศึกษาดูงานในพื้นที่ภาคตะวันออก มีผู้เข้าร่วม 95 ราย ประกอบด้วยผู้แทนฝ่ายไทย ได้แก่ นักวิชาการกรมฝนหลวงฯ 65 ราย และผู้แทนหน่วยงานความร่วมมือ 11 ราย
ผู้แทนจากต่างประเทศ 22 ราย ประกอบด้วยผู้แทนจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ มองโกเลีย ศรีลังกา และประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ จอร์แดน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ อันเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการดัดแปรสภาพอากาศของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และสมาชิกศูนย์การดัดแปรสภาพอากาศอาเซียนให้มีความรู้ และเกิดทักษะที่เกี่ยวข้องอย่างหลากหลาย จนสามารถร่วมดำเนินโครงการความร่วมมือให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดการความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป
ตลอดจน ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนา วิจัยและปฏิบัติการด้านการดัดแปรสภาพอากาศ อันเป็นการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือภายในและระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ และสามารถนำมาปรับใช้กับเทคนิคของแต่ละประเทศได้อย่างเหมาะสม และร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างความเข้มแข็งการดำเนินงานภายใต้ศูนย์การดัดแปรสภาพอากาศอาเซียน
โดยจัดทำแผนปฏิบัติงานร่วมด้านการดัดแปรสภาพอากาศ อันเป็นเครื่องมือและกลไกสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และบรรเทามลภาวะทางอากาศในระดับภูมิภาคเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป
ทั้งยัง แบ่งปันและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการดัดแปรสภาพอากาศ โดยเทคโนโลยีฝนหลวงของไทยให้ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ที่ดำเนินความร่วมมือด้านการดัดแปรสภาพอากาศกับกรมฝนหลวงฯ อันเป็นการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านฝนหลวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รวมถึงเพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ศูนย์การดัดแปรสภาพอากาศอาเซียนโดยมีประเทศไทย กรมฝนหลวงฯ เป็นหน่วยประสานงานหลัก และฝ่ายเลขานุการถาวรของ AWMC ให้แก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ
การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การแก้ไขและรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยนวัตกรรม การพัฒนาวิธีการทำงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล และการจัดการความรู้แบบบูรณาการ” โดยผู้เข้าร่วมฯ จะได้ชมการสาธิตการปฏิบัติการฝนหลวงและกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ได้ร่วมแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และนักบิน
จากกรมฝนหลวงฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ในการรับมือกับแนวโน้มความท้าทายในอนาคต แสวงหาความร่วมมือและการแบ่งปันความรู้ รวมถึงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้ชุมชนใน “AWMC”
จุดเด่นอีกหนึ่งประการ คือ การให้ความสำคัญกับข้อมูลเชิงลึกและการอภิปรายเกี่ยวกับแผนการวิจัยและพัฒนาภายใต้กรอบ 4S: ได้แก่ ความมั่นคง (Security) ความปลอดภัย (Safety) ความราบรื่น (Seamlessness) และความยั่งยืน (Sustainability)
กรมฝนหลวงฯ มุ่งหวังให้การประชุมนี้ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนา วิจัยและปฏิบัติการด้านการดัดแปรสภาพอากาศ อันเป็นการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ ตลอดจนร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างความเข้มแข็งการดำเนินงานภายใต้ “AWMC” โดยจัดทำแผนปฏิบัติงานร่วมด้านการดัดแปรสภาพอากาศ อันเป็นเครื่องมือ และกลไกสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และบรรเทามลภาวะทางอากาศในระดับภูมิภาคให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อันจะนำไปสู่การดำเนินงานที่สอดคล้องกับข้อตกลงที่กำหนดร่วมกันต่อไป
