เลือกตั้งสจ. เมืองหาดใหญ่ คึกคัก “สส.ศาสตรา” รวมไทยสร้างชาติ ส่งสจ. ปะทะ เด็ก “บ้านใหญ่ “ เลือดสีฟ้า “นิพนธ์บุญญามณี” พรรคประชาธิปัตย์
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0074-3-787x1024.jpeg)
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0075-3-1024x768.jpeg)
ผ่านห้วงเทศกาลแห่งความสุขหมดไปไวในห้วงสั้นๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ กระแสการเมืองที่พักยกชั่วขณะ ก็จะกลับมาร้อนแรงเบียดคืนพื้นที่ข่าวรายวันภายใต้ ศักราชใหม่ 2568
ล่าสุด วันที่ 7 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สงขลา และส.อบจ.สงขลา ที่ยังเหลือเวลาอีกกว่า 20 วันก่อนจะจัดการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธุ์ 2568 ยิ่งเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ผู้สมัครเริ่มเปิดเวทีปราศรัยย่อย เดินถนนพบปะประชาชนมากขึ้น
โดยเฉพาะทีมที่กำลังเป็นกระแสองอย่าง ”สงขลาพลังใหม่” ที่มี “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” หัวหน้าทีมเป็นผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา หมายเลข 5 ซึ่งลาออกจากอธิบดีกรมฝนหลวงฯ มาลงสู้ศึกครั้งนี้ ได้รวบรวมทีมการเมืองท้องถิ่นมาเสริมทัพ ทั้ง สส. ผู้นำชุมชน นายกอบต. ในหลายพื้นที่ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีฐานเสียงพอตัว
เช่นเดียวกับ ”ศาสตรา ศรีปาน” สส. เขต 2 สงขลา ที่หนุนส่ง “พีระพงษ์ บุญเลิศ” หรือ ”สจ.โดม” ผู้สมัครส.อบจ. เขต2 หมายเลข 4 ทีม”สงขลาพลังใหม่” ซึ่งเป็นดีเอ็นเอ ของพรรครวมไทยสร้างชาติอีกหนึ่งคนที่มีภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่การศึกษาดี ดีกรี ป.โท วิศวะ ม.อ. และเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม ซึ่งที่ผ่านมาชนะ ”ประสิทธิ์ ช่วยชูสกุล” จากค่ายประชาธิปัตย์ ไปด้วยคะแนน 5,575 คะแนน โดยเข้าไปทำหน้าที่ในสภา อบจ.สงขลามาแล้ว 1 สมัย
ขณะที่ เขตนี้ก็ยังมี ผู้สมัครจากทีมสงขลาพลังใหม่” อีกคนคือ ”ประสิทธิ์ ช่วยชูสกุล” ที่หวังทวงพื้นที่คืนให้บ้านใหญ่เป็นผู้สมัครหมายเลข 5 เป็นอดีต สจ. และนักการเมือฝที่คุ้นเคยพื้นที่ดี เคยผ่านงาน สท.นครหาดใหญ่มาด้วย
ก่อนที่ ”สจ.ประสิทธ์“ จะมาสีงกัดบ้านใหญ่ เป็นคนของ ”นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย /อดีตนายก อบจ.สงขลา จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนใก้มีตำแหน่งทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ในตำแหน่ง เลขานุการนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และเลขานุการ นายก อบจ.สงขลา หลังพ่าย “สจ.โดม” ครั้งก่อน
ครึ่งนี้ จึงเป็นศึกล้างตาที่ไม่มีใครยอมใคร แม้จะมีหัวหน้าทีมคนเดียวกัน ใส่เสื้อสีเดียวกัน แต่ทั้งสองคน “มีลูกพี่คนละคนกัน” ผลแพ้ชนะจึงวัดบารมีลูกพี่อย่าง “ศาสตรา” และ “นิพนธ์” โดยไม่เกี่ยวกับ ว่าที่นายก อบจ. อย่าง “อธิบดีสุพิศ” จึงมีการวิจารณ์ว่า เขตนี้ สจ. จะยิงลูกโกด เช่นเดียวกับเขต3 และ 4 ในหาดใหญ่ ที่มีลักษณะการเมืองเช่นเดียวกันในสนามการเมือง อบจ.สงขลา ปี 68
โดยเฉพาะ เขต 3 ซึ่ง ”สส.ศาสตรา “ ส่ง “นคร ศรีวารินทร์” หรือ “เลขาตั๊ม หลบค่ำโย๊ะ” ซึ่งเปิดตัวแรง ลูกแม่ค้าขายส้มตำ พ่อขับวินมอเตอร์ไซค์ ดีกรี ป.ตรี การเงินการธนาคาร มาพร้อมสโลแกน “ลูกชาวบ้าน พร้อมเป็นปากเสียงให้ชาวบ้าน” ติดแฮชแทก #ไม่ทิ้งพื้นที่ไม่หนีประชาชนทีมคนทำงาน ผู้สมัครส.อบจ. หมายเลข 4 ทีม ”สงขลาพลังใหม่” ลงแข่ง
ขณะที่ “รมต.นิพนธ์” ส่ง “ จำลอง บุญวรรโณ” ผู้สมัครส.อบจ. หมายเลข 5 อดีต สจ. ลงแข่งเพื่อแย่งพื้นที่ฐานเสียงของ “สส.ศาสตรา” ในเมืองหาดใหญ่ เช่นเดียวกัน จนประชาชนอาจจะเกิดความสับสน ระหว่างเบอร์ 4 กับ เบอร์ 5 ทีมสงขลาพลังใหม่
ทำให้ศึกในการชิงเก้าอี้ ส.อบจ. สงขลา เขต 2 และเขต 3 อำเภอหาดใหญ่ในครั้งนี้
ระหว่าง สจ.เบอร์4 กับ เบอร์ 5 ต่างค่ายในรั้วเดียวกัน จึงน่าจับตาดูว่าใครจะคว้าสจ. ไปครองมากกว่ากัน ระหว่าง ”สส.ศาสตรา ศรีปาน” เลือด ” ลุงตู่ “ ”พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” แห่ง ค่าย”รวมไทยสร้างชาติ” กับ “นิพนธ์ บุญญามณี” เลือดสีฟ้า จากพรรคประชาธิปัตย์
เกมนี้ มีผลต่อทั้งสองคนในทางการเมืองมาก โดย “สส.ศาสตรา” นอกจากสร้างพื้นที่การเมืองให้ทีมงานแล้ว ยังหมายถึงการเสริมรากฐานการเมืองขิงตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ด้าน “รัฐมนตรีนิพนธ์” ครั้งนี้สนับสนุนผู้สมัครส.อบจ. ที่ใส่เสื้อทีมสงขลาพลังใหม่มากกว่า 20 คน (รวมกับส่วนที่ “โกถึก” สส.สงขลา เขต 3 ในสังกัดบ้านใหญ่สวนตูลดูแลใกล้ชิดด้วย) ทั้งนี้ สจ.เก่าในทีมบอกว่า นายหัวต้องการตำแหน่ง “ประธานสภาอบจ.สงขลา” ไว้เป็นอำนาจต่อรองทางการเมืองกับ “บ้านใหญ่” ค่ายสีฟ้าแถวรัตภูมิ และว่าที่นายกอบจ. ในการจัดสรรความพึงพอใจให้นักการเมืองในสังกัด
การขิง ส.อบจ. เขต 2-3 ในหาดใหญ่ รวมถึงเขต 4 และอึกหลาย ๆ เขต รวมถึงในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลาครั้งนี้จึงร้อนระอุ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ยิ่งต้องจับตา
อีกทั้ง พื้นที่นี้ ยังมี “ตัวแปร” สำคัญที่มาแย่งฐานคะแนน ทั้งผู้สมัครส.อบจ. จากทีม “สงขลาเข้มแข็ง” ของนายประสงค์บริรักษ์ และผู้สมัคร พรรคประชาขน
นั่นยิ่งเพิ่มความเข้มข้น เข้าตำรา “ตาอิน แข่งกับตานา ระวังตาอยู่ จะคว้าพุงปลาไปกิน” เพราะในอดีต ส.อบจ. เขคเมืองเปลี่ยนแปลงสูง อีกทั้งผลการเลือกตั้งในตัวเมืองหาดใหญ่ พลิกไปตาม “กระแย” หัวหน้าทีม มากกว่า การเมืองต่างอำเภอ อันนี้ จึงสะท้อนภาพชัดเจนที่ผู้สมัคร ส.อบจ. จำเป็นต้อง “ยิงลูกโดด” เพราะผลลัพธ์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ผันแปรต่อกาคเมืองของ “ลูกพี่” มากกว่าว่าที่ นายก อบจ. ผู้เป็นหัวหน้าทีม
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0080-2-768x1024.jpeg)
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0081-1-768x1024.jpeg)
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0082-1-768x1024.jpeg)
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0083-1-768x1024.jpeg)
![](https://songkhlafocus.com/wp-content/uploads/2025/01/IMG_0084-1-1024x768.jpeg)