จัดยิ่งใหญ่พิธีเปิด-เฉลิมฉลองอาคาร “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) ณ มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็งหาดใหญ่ ประธานมูลนิธิ มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ ฝากเป็นสมบัติพระพุทธศาสนาคู่เมืองหาดใหญ่

เวลา 17.29 น. วันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ จัดพิธีเปิด-เฉลิมฉลองอาคาร“ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) ณ มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่
โดยมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน, พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พล.ต.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42


นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอำนวย พิณสุวรรณ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
นายเอนก แซ่ตั้ง ประธานมูลนิธิ มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ กล่าวว่า เมื่อปีประมาณ พ.ศ.2537 องค์เทพนาจาท่านประทับทรงที่ศาลเจ้าไฉ่ซิ่งเอี๋ย
แล้วขึ้นรถกระบะมาที่นี่ ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้นั้น เป็นป่า แทบจะไม่มีบ้านเรือน มีเพียงด้านหน้าอยู่ไม่กี่หลังเท่านั้น ก็มาปักบนที่ดินประมาณ 10 กว่าห้อง
แล้วบอกกับศิษยานุศิษย์ที่ตามมาด้วยว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ชุมนุมของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้และให้ลูกหลานมาซื้อที่ดินแห่งนี้ แล้วนำมาพัฒนาเป็นศาลเจ้าต่อไป
ล่วงเลยมาอีก 2-3 ปี หลังจากนั้นก็มีการซื้อที่ดินแปลงนี้ จำนวน 10 ห้อง เริ่มต้น พ.ศ.2537 และมีการก่อตั้งเป็นศาลเจ้าเต๋าบ้อเก็ง ก็เป็นเพียงศาลเจ้าเล็ก ๆ ศาลเจ้าหนึ่ง



“ใครจะเชื่อครับว่า วันเวลาที่ล่วงเลยไป วันนี้ได้ถูกต้นน้ำทุกสายหล่อหลอมกัน ช่วยเหลือกัน เกื้อกูลกัน ด้วยจิตศรัทธาสาธุชน เป็นมูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็งขึ้นในปี พ.ศ.2548 โดยอาจารย์ศุภเดช ชื่นพงศ์พันธ์”
และในปี พ.ศ.2548 ก็ได้มีการยกระดับจากศาลเจ้าเต๋าบ้อเก็ง เป็นมูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็งขึ้น และท่านก็ยังได้เล็งเห็นว่าลำพังเพียงมูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็งนั้นคงไม่สามารถช่วยบรรเทาหรือแบ่งเบาสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้นได้
ในปีพ.ศ.2556 ก็มีการตั้งศูนย์กู้ชีพกู้ภัยมัชฌิมา หลังจากเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทของมูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็งร่วมกับศูนย์กู้ชีพกู้ภัยในการทำงานร่วมกัน ทั้งเรื่องของกายและเรื่องของใจร่วมกัน
ต่อจากนั้นมาก็ดำเนินการในปีพ.ศ.2564 ก็ได้มีการวางศิลากฤษ์ “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) โดยใช้งบประมาณจำนวน 33 ล้านบาท
ที่เกิดจากศรัทธาสาธุชนทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมแรงใจที่จะหมายมั่นปั้นมือสำหรับการก่อสร้าง “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว)
อาคารที่ทุกท่านเห็นเบื้องหน้านั้น เป็นพระราชประสงค์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ท่านปรารถนาที่จะให้อาคารแห่งนี้“ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) สร้างขึ้นตามบัญชาของเบื้องบนนั่นคือประเด็นที่หนึ่ง
ประเด็นที่สองเป็นคำสั่งเสียงของท่านอาจารย์ศุภเดช ชื่นพงศ์พันธ์ มีต่อท่านอาจารย์เกียรติศักดิ์ วิเศษดอนหวายไว้ว่าเจตจำนงค์ที่เราตั้งใจให้เจ้ารักษาคำมั่นสัญญาสร้างพระตำหนักเต๋าบ้อนั้น
มิใช่เป็นเพียงความประสงค์ของเราเท่านั้น แต่เป็นบัญชาของเบื้องบน เจ้าจงจำไว้เมื่อถึงวันหนึ่ง จะมีคนมาร่วมกับเจ้าสร้างพระตำหนักเต๋าบ้อ แห่งนี้ให้สำเร็จ เจ้าอย่าละทิ้งปณิธาน
“เชื่อมั๊ยครับว่าหลังจากนั้นมา อาจารย์ศุภเดช ชื่นพงศ์พันธ์ สิ้นเมื่อปีพ.ศ.2562 ถัดมาจากนั้นในช่วงวิฤติปีพ.ศ.2564 ถึงปี พ.ศ.2567 3 ปีเต็ม ๆ เราสร้างอาคารนี้ “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) สำเร็จ
ก็ด้วยศรัทธาสาธุชนของทุก ๆ ท่าน ที่ให้ความอนุเคราะห์ต่อ มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง วัตถุประสงค์หลักที่เราต้องการจัดงานในครั้งนี้นั้น ด้วยจิตเจตนาหมายมั่นปั้นมือเลยก็คือว่า
เราต้องการถวายอาคาร “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) เป็นพุทธบูชา เป็นสมบัติพระพุทธศาสนาเคียงคู่ไว้กับอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ฝากไว้ในผืนแผ่นดินนี้ เพื่อให้อนุชนได้สืบสานรากเหง้าแห่งวัฒนธรรม มรกดแห่งภูมิปัญญาอันล้ำค่า อันสืบเนื่องด้วยศาสตร์วิชาเต๋าและพุทธมหายาน
ประการที่สองนั้นก็เพื่อขอบคุณท่านผู้มีจิตศรัทธาทุก ๆ ท่าน เงินทุกบาทุกสตางค์ที่ทุก ๆท่านได้ช่วยในการขับเคลื่อนกิจกรรมที่ผ่านมาของ มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง ทุก ๆ กิจกรรม นำมาซึ่งความสำเร็จ
ก็ขอเป็นอีกวันหนึ่งที่เราได้ตอบแทนทุก ๆ ท่าน และเราเชื่อว่าสิ่งนี้เองจะจรดไว้ในความทรงจำของพวกเราทุก ๆคนในนาม “มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง”
ประการที่สามนั้นเราอยากจะถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องชาวหาดใหญ่ ชาวจังหวัดสงขลา ซึ่งหลาย ๆ ท่านเคยมามูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง ในอดีต แล้วห่างเหินกันไป
ก็ได้มาชมความเติบโต ความก้าวหน้า ที่ทุก ๆ ท่านได้ร่วมกันเสียสละ ให้”มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง”วันนี้ ได้ยืนหยัดขึ้นบนความสง่างาม
เพราะ “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว) นี้ เป็นการจำลองส่วนหนึ่งของหอเทียนถานที่กรุงปักกิ่ง สิ่งนี้เองเป็นสิ่งที่เราในนาม “มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง”
ตระหนักเสมอว่าการสำนึกถึงต้นน้ำทุกสาย อันมีคุณค่า เป็นการเสมือนหนึ่งเป็นการกตัญญูรู้คุณที่ทุกท่านได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของการสร้าง “ตำหนักพระเต๋าบ้อ” (พระมารดรแห่งหมู่ดาว)
หรือส่วนหนึ่งส่วนใดก็ตามที่ทุก ๆ ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์ ศาลเจ้าเต๋าบ้อเก็ง ก็ดี มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็งก็ดี หรือศูนย์กู้ชีพกู้ภัยมัชฌิมาก็ดี
ล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่เรากำลังออกไปทำหน้าที่แบ่งปัน เอื้อประโยชน์แก่สาธารณะชนมาโดยตลอด ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบุญกุศล คุณงามความดีใด ๆ ก็ตาม ที่ทุกท่านได้มีส่วนร่วมสรรค์สร้าง จรรโลงความดีงามทั้งหลายเหล่านี้
เป็นเสมือนหนึ่งร่มเงาแห่งความเป็นมงคล เป็นร่มใบบุญอันประเสริฐ ที่จะนำพาซึ่งความสันติสุข ความผาสุก ความร่มเย็นให้เกิดขึ้นแก่ชาติบ้านเมือง และมากไปกว่านั้นก็คือ
เป็นอีกสถานที่หนึ่งในการเสริมสร้าง บ่มเพาะคนดีสู่สังคม ด้วยจารีตประเพณี ขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เราคงสืบสานไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง ได้ตระหนักถึงสายเลือดแห่งพันธุ์มังกรอย่างแท้จริง
////////////////////////////////
สำนักข่าวโฟกัส
สมชาย สามารถ


