สงขลา ถือเป็นจังหวัดที่รายล้อมด้วยแม่น้ำ ที่เชื่อมต่อกับทะเล กับแม่น้ำ กับแผ่นดิน หรือเปรียบเมืองแห่งสายน้ำ ด้วยเหตุนี้สงขลาจึงมีประเพณีที่สืบเนื่องกับทะเล กับสายน้ำเกิดขึ้นอย่างมากมาย อาทิ ประเพณีลากพระทางน้ำ ประเพณีแข่งเรือ ประเพณีทอดกฐิน ทอดผ้าป่าทางน้ำ ฯลฯ และจากการที่ปัจจุบันนี้วัฒนธรรมประเพณีเกี่ยวเนื้องกับสายน้ำ ได้เลือนหายไปด้วยกาลเวลาและสภาวะสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนกันไป จึงทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา ที่นำโดย ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายกสภามหาวิทยาลัย ดร. ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัย ได้มอบหมายให้ “สำนักศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย” ที่มี ดร.บรรจง ทองสร้าง เป็นผู้อำนวยการ และคณะกรรมการส่งเสริมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยฯ ที่มี นายไพโรจน์ รัตนภิรมย์ เป็นประธานคณะกรรมการ ได้ช่วยกันพื้นเรื่องราวที่เป็นกิจกรรมประเพณีทางสายน้ำให้ได้กลับมาอยู่คู่กับเมืองแห่งสายน้ำสงขลา
ได้เริ่มประเพณีการทอดกฐินสามัคคีทางน้ำ

เมื่อปี พ.ศ. 2565 และได้รับการตอบรับจากประชาชนของจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยได้จัดการทอดกฐินสามัคคีทางน้ำจาก ท่าน้ำโรงสีแดง หับ โห้ หิ้น ของนายรังษี รัตนปราการ นายกภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม จากฝั่งเมืองบ่อยางลงเรือนำกฐินสามัคคีไปทอดยัง วัดแหลมพ้อ ตำบลเกาะยอ ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนในการเข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก จนมาถึงปี 2566 ในปีนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฎได้ขอพระราชทานผ้าพระกฐินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นผ้าพระกฐินพระราชทานทางน้ำ ดังประกาศของมหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดสงขลา เรื่อง การถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี พ.ศ.2566 ด้วยปีพุทธศักราช 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา ตามที่ขอพระราชทาน เพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดแหลมพ้อ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 17.00 น.ที่มหาวิทยาลัยได้จัดขบวนพิธีอย่างยิ่งใหญ่จาก ท่าน้ำสวนประวัติศาสต์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เรียบขบวนออกจากคลองวง สู่ ทะเลสาบสงขลา ด้วยขบวนเรือที่มีบุษบก ที่ประดับด้วยศิลปะของการแทงหยวก โดยฝีมือช่างที่สวยงามวิจิตรตระการตา ล่องเรือข้ามทะเลสาบไปขึ้นยังท่าน้ำวัดพระนอนแหลมพ้อ ท่ามกลางขบวนเรือเป็นริ้วขบวน และประชาชนที่มาร่วมต้อนรับเป็นจำนวนมาก คือภาพประวัติศาสตร์ในการนำผ้ากฐินพระราชทานไปทอดทางน้ำของจังหวัดสงขลา ที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏจะได้สืบสานให้เป็นประเพณี ให้ได้มีการทอดกฐินทางน้ำกันในทุกๆ ปี ที่ในปีหน้าก็ได้กำหนดที่จะล่องเรือไปทอดที่ วัดท่านางหอม เป็นวัดต่อไปในปีหน้าปี 2567

คือความสวยงามของสงขลาที่จะกำลังก้าวเดินสู่เมืองมรดกโลก ประเพณีที่สวยงามทางสายน้ำของสงขลา ถือเป็นเรื่องราวทางวัฒนธรรมประเพณีที่จะเป็นต้นทุนสำคัญที่เกี่ยวกับสายน้ำให้กลับมาเป็นความสุข ความสวยงามของสงขลา ให้เห็นถึงรากฐานของความเจริญทางด้านจิตใจในอารยธรรมและคุณค่าของความเป็นชุมชนที่ได้อาศัยบนแผ่นดินและสายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของสงขลา ให้สงขลาได้เป็นเมืองแห่งความสุข เมืองแห่งศรัทธา ให้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองของผู้คนบนโลกใบนี้..เมืองมรดกโลก ต่อไป














