“จรัส พรหมโณ” อดีตผู้ช่วย สส. นายพยม ฃพรหมเพชร สส.เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ นับได้ว่า
เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการเมืองมายาวนาน จึงมีประสบการณ์ โดยเฉพาะการประสานงาน ชนิดที่เรียกได้ว่า “สิบทิศ” และมีความเหนียวแน่น ทั้งกับบุคคลและหน่วยงาน ด้วยความเป็นคนพื้นที่ตำบลทุ่งตำเสา ทำให้เข้าถึงประชาชนและรู้ปัญหาชัดเจน
“ผมเริ่มเข้าสู่การเมืองเมื่อปี 2538 ในปีนั้นได้มีการยกฐานะจากสภาตำบลเป็นองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผมได้ลงสมัคร ส.อบต.ทุ่งตำเสา และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภา อบต.ทุ่งตำเสา”
ในการเป็นตัวแทนชาวบ้านครั้งแรก “จรัส” ทราบว่าชาวบ้านทุ่งหญ้าขม หมู่ที่ 10 ไม่มีไฟฟ้าใช้สร้างความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน จึงนำปัญหาเข้าพูดคุยในที่ประชุมสภา อบต. ที่ประชุมรับเรื่อง แต่ทว่างบประมาณราว 7 แสนบาทที่จะใช้แก้ปัญหานี้ ถือว่าสูงมากในสมัยนั้น
“งบสูงมาก แต่ผมก็เดินหน้าต่อ ประสานงานไปยัง สส.ในพื้นที่ในขณะนั้นคือ นายถาวร เสนเนียม
และได้รับการประสานต่อไปยังการไฟฟ้าเขต 3 ยะลา และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาสำรวจพื้นที่ และในปีต่อมาด้วยการผลักดันจากนายถาวรฯ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวมีไฟฟ้าใช้
มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งผมถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงชิ้นแรกของผม“ นายจรัส กล่าว และว่าการทำให้ชาวบ้านทุ่งหญ้าขม มีไฟฟ้าใช้ทำให้เป็นที่กล่าวถึงออกไปในวงกว้าง นายประสิทธิ์รุ่งเรือง ส.อบต.ฉลุง ได้ประสานมายังตน เพื่อขอให้ช่วยชาวบ้านบ้านทุ่งรื่น หมู่ที่ 4 ตำบลฉลุง ในปัญหาเดียวกัน
“ในปีนั้น ผมยังไม่มีรถยนต์ แต่การประสานงานเรื่องนี้จำเป็นต้องเดินทางไปที่จังหวัดยะลา ในครั้งนั้นได้รับความอนุเคราะห์จาก นายบัณฑิต
วรรณวิโรจน์ หรือ สจ.ทัช จัดรถ อบจ.มาให้ใช้เดินทางไปยังการไฟฟ้าเขต 3 ยะลา และอีกคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยคือ นายสุนทร ฤทธิภักดี นายอำเภอหาดใหญ่ในขณะนั้น ท่านพร้อมด้วยปลัดลงพื้นที่ไปตั้งแคมป์นอนค้างคืน ร่วมกับ ปภ. เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่นี้ ได้มีไฟฟ้าใช้จนถึงปัจจุบัน”
ด้วยบุคลิกเรียบง่าย พูดจามีแบบแผนน่าเชื่อถือของ “จรัส พรหมโณ” ทำให้ทุกครั้งที่ประสานงานกับทุกฝ่ายจะได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี ถนน ไฟฟ้าและน้ำ เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนรู้ถึง
ฝีไม้ลายมือของเขา และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกเขาเป็น ส.อบต.ทุ่งตำเสา ถึง 4 สมัยและยังดำรงตำแหน่ง “ประธานสภา” ในปี 2544
ผลงานต่างๆ ทำให้เขาได้รับรางวัล “ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น” มีโอกาสได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯ ที่วังสวนจิตรลดา นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของนักการเมืองท้องถิ่นเล็ก ๆ คนหนึ่ง
จากปัญหาหนึ่งนำไปสู่ปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่า เมื่อชาวบ้านบ้านวังพา หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งตำเสา เกิดปัญหาเรื่องที่ดินทำกินตนจึงนำเรื่องนี้ไปคุยกับนายถาวร เสนเนียน ซึ่งในขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้กรมที่ดินมาตรวจสอบแนวเขต ทำให้ในปีนั้นสามารถออกเอกสารสิทธิ์ให้กับชาวบ้านได้ราว 400 แปลง
ปัญหาเรื่องที่ดินยังไม่จบลงแค่นั้น ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่รอการแก้ปัญหาอยู จรัสฯ หยุดเรื่องการเมืองไประยะหนึ่ง กระทั่งปี 2562 นายพยม พรหมเพชร ได้รับเลือกเป็น สส.
สงขลา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เขาได้รับทาบทามให้ไปช่วยทำหน้าที่ “ผู้ช่วย สส.” มีอำนาจเต็มในการประสานงานปัญหาความเดือดร้อน และเขาไม่ปฏิเสธ การเป็นผู้ช่วย สส. ในครั้งนั้น จึงได้เข้าแก้ปัญหาในพื้นที่ที่เคยดำเนินการไว้ก่อนหน้า อาทิ การแก้ปัญหาที่ดินในหมู่ที่ 3, 7 และ 8 ตำบลทุ่งตำเสา
“ผมได้เข้าพบกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่ทำเนียบรัฐบาลและได้นำปัญหาที่ดินของชาวบ้านเสนอให้ท่านรับทราบ จากวันนั้น
ไม่นาน จึงได้ออกเอกสารสิทธิ์ให้ชาวบ้านในตำบลฉลุงและทุ่งตำเสา”ในขณะเป็นผู้ช่วย สส. นักประสานงานคนนี้ยังได้ช่วยเรื่องน้ำที่จะใช้ในการทำนา หลังจากพบว่าชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่2, 3 และ 4 ตำบลทุ่งตำเสา ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร โดยได้ประสานกับสำนักงานชลประทานสงขลา จึงเกิด
โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่วัดหูแร่ เป็นการสูบน้ำจากคลองวาดข้ามฝั่งไปถ่ายเทลงในคลองต่ำ และในพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้ชาวนาได้ทำนาตลอดทั้งปี รวมถึงการทำ “ประปาภูเขา” ที่บ้านวังพา บ้านทุ่งค่าย บ้านท่าหมอไชย ตำบลทุ่งตำเสา เป็นโครงการที่จรัส พรหมโณ ได้ประสานไว้แล้วทั้งหมด
“ที่ยังค้างคาอยู่ตอนนี้ ก็มีเรื่องโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เนื่องจากในตำบลฉลุง ปัจจุบันมี รพ.สต.เพียงแห่งเดียว ซึ่งไม่เพียงพอ ผมจึงอยากให้มีรพ.สต.ในตำบลฉลุงเพิ่มอีกแห่ง หากผมมีโอกาสได้รับเลือกเป็น ส.อบจ. ปัญหาต่าง ๆ ของพี่น้องประชาชนที่ผมเคยประสานงานไว้ ผมจะดำเนินการต่อในทันที เชื่อว่าจะทำให้ความจำเป็นพื้นฐานในด้านสาธารณูปโภคของพี่น้องประชาชน ได้รับการแก้ไขและมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
จรัส พรหมโณ นักประสานงานตัวจริงที่เคยทำสำเร็จมาแล้วในหลายเรื่อง จะดำเนินการต่อในทันที ขอเพียงพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 9 อำเภอหาดใหญ่ไว้ใจ และให้โอกาส