สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 แถลงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 2 นายตำรวจใหญ่ กับอดีตนายอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานั ซึ่งปัจจุบันเป็นนายอำเภอหาดใหญ่
วันนี้(28 ตุลาคม 2567) ที่โรงแรม เจบี หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 นำทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานป.ป.ช.จังหวัดใน 7 จังหวัดภาคใต้ แถลงผลการดำเนินงานของสำนักงานป.ป.ชภาค 9 และสำนักงานป.ป.ชประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 9

โดยมีคดีสำคัญ ประกอบด้วย การกล่าวหา พลตำรวจตรี กฤษฎา แก้วจันดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ในการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม กรณีสั่งการไม่ให้ตรวจสอบรถยนต์ MU-X สีดำ ที่ได้ประสบอุบัติเหตุตกร่องกลางถนน บริเวณถนนเพชรเกษม (ถนนเอเชีย) ฝั่งขาขึ้น ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 โดยมีการกล่าวอ้างว่าได้บรรทุกบุหรี่ และสุราหนีภาษี และไม่จัดเก็บรักษารถยนต์พร้อมทั้งของกลางดังกล่าว เป็นเหตุให้สูญหาย
โดยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 158 และมาตรา 200 วรรคหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 79 (1) (5) และ (6)
ปัจจุบัน ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 91 (1) และส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาโทษทางวินัย ตามมาตรา 91 (2) และมาตรา 98 แล้ว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ส่วนอีกราย กล่าวหา พ.ต.อ.ปุริมพรรษ์ สอนสังข์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าพะยอม จ.พัทลุง ทุจริตเงินค่าเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด – 19 (ค่าเบี้ยเลี้ยงโควิด –19) ประจำปี 2563
และอีกคดีสำคัญคือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี กรณีสั่งใช้ให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ในสังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอหนองจิก ที่ 10 ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้รถยนต์ของทางราชการบรรทุกวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างบ้านพักส่วนตัวของตน ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา จ.สงขลา และสั่งการให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ส่วนหนึ่งไปทำการก่อสร้างบ้านพักส่วนตัวหลังดังกล่าวโดยมิชอบการกระทำของนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 85 (1) ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 ต่อไป
นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ยังกล่าวว่า การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหา
ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลจนถึงที่สุด

