ชี้อบจ.เช่าแพง-จนท.เสี่ยงคุก”เถ้าแก่หลี”แฉเบื้องหลังเช่าครื่องจักร198ล้าน

lee

สำนักข่าวโฟกัส//สมชาย สามารถ

หลังจากที่มีผู้ชนะการประมูลโครงการเช่าเครื่องจักรกลพร้อมพนักงานขับรถ 5 ปี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มูลค่ากว่า 198 ล้านบาท

ล่าสุด นายเฉลิมชัย ครุอำโพธิ์ (เถ้าแก่หลี) เจ้าของ บริษัท เขาบันไดนางศิลา จำกัด ผู้ที่เคยออกมาให้ข้อมูลเปรียบเทียบราคาซื้อ/เช่า ให้สังคมได้รับทราบภาคแรก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้ง (ครั้งที่สอง) ด้วยการอธิบายลงลึกในรายละเอียดของโครงการ พร้อมบอกว่า จะเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษี


“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายและประชาชนจังหวัดสงขลาติดตามตรวจสอบการดำเนินการโครงการหลังจากนี้ต่อไป” เถ้าแก่หลี กล่าว และว่า


ครั้งที่แล้วที่ผมออกให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พูดแบบกว้าง ๆ แต่ครั้งนี้จะพูดให้ลึกและชัดกว่าเดิม ตามที่ทราบแล้วว่ามีการประมูลกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ราคาที่ประมูลได้ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ถ้าจะถามผมว่ามีการสมยอมกันมั๊ยในการเสนอราคาประมูล ให้ไปตามเด็กอนุบาลก็ตอบได้ ไม่ต้องให้ผมตอบ


แม้ว่าจะมีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) ก็ตาม แต่ผมอยากจะบอกว่าในวงการเขารู้กันดีว่าเป็นอย่างไร ผมเคยเป็นผู้รับเหมามาก่อน ผมรู้อย่าให้ผมพูดดีกว่า จริง ๆ แล้ว ที่ผมออกมาให้สัมภาษณ์สื่อครั้งที่แล้ว ผมตั้งใจว่าพูดแล้วก็จะไม่พูดแล้ว แต่ปรากฏว่ามีผลตอบรับกลับมา ๆ เข้าหูผม มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า


” เถ้าแก่หลีที่ออกมาพูดโม้ว่า มีประสบการณ์ มีจริงหรือเปล่า และรู้มั๊ยว่าในระหว่างที่เครื่องจักรทำงานต้องมีการเติมน้ำมัน ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แล้วเที่ยวมาพูดว่าเถ้าแก่หลีเสียภาษีปีเท่าไหร่ “


แล้วก็บอกว่าเถ้าแก่หลีโกรธนายกสุพิศ (นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา) ว่า ตอนที่เถ้าแก้หลีสร้างโรงพยาบาลสิงหนคร ไปชวนท่านสุพิศร่วมทำบุญแล้วท่านสุพิศ ไม่ได้ร่วมทำบุญด้วย เลยอาจจะโกรธนายสุพิศ เลยมาตีเรื่องโครงการเล่าเครื่องจักรกลหรือเปล่า


อีกเรื่องเขาบอกว่าทำไม ไม่พอใจอะไร ได้ยินข่าวว่าคนนามสกุลเดียวกันกับผม เป็นรองนายก อบจ. สงขลาอยู่ และสามีของคุณมาลัยทิพย์ ครุอำโพธิ์ หรือ “มาดามปิ๋ม” เป็นบุตรเขยอยู่ทำไมจะต้องมาตีมากระทบ


วันนี้ผมขอชี้แจงว่า คนที่พูดว่าผมไม่มีประสบการณ์คุณอายุเท่าไหร่ ถ้าคุณอายุแค่ 20 หรือ 25 ปี คุณไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของผมหรอกครับ แต่ถ้าคุณอายุ 50 ปีขึ้นไป คุณจะรู้จักผมดี ก็อย่างที่ผมพูด ผมทำงานตั้งแต่ผมอายุ 14 ปี ทุกวันนี้ผมอายุ 70 ปีแล้ว 56 ปีที่ผมทำงานมา ไม่ต้องมากเลย ผอ.กองช่างหรือนายช่างเครื่องกล ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาที่ว่าแน่ ๆ ให้มานั่งถกกับผมหน่อย แล้วผมก็พูดจริง ๆ เลยว่า ถ้าเรื่องทุกเรื่องผมพูดถ้าทางผู้ที่เกี่ยวข้องคิดว่าผมพูดอะไรไม่จริง ก็เปิดห้องแถลงชี้แจงแล้วเชิญผมไปนั่งคุยได้เลย
ที่บอกว่าผมไม่มีประสบการณ์ รู้ไม่จริง ผมบอกว่าผมรู้จริง แล้วเขาบอกว่าต้องเติมน้ำมันบ้าง ต้องเติมน้ำมันไฮดรอลิคบ้าง ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ้าง


ก็ผมพูดแล้วว่ามันมีบริการบำรุงรักษาหลังการขายจนครบ 7,000 ชั่วโมง สำหรับเครื่องจักรใหม่ หลังจากนั้น มันถึงจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้เช่าหรือผู้ซื้อในการบำรุงรักษา


แต่ในระหว่างที่เช่า หรือว่าใช้งาน ถ้ายังไม่เกิน 7,000 ชั่วโมง เป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่า ผู้ให้เช้าก็ไปเรียกร้องเอากับบริษัทที่ขายรถ เพราะว่ามันเป็นโปรโมชั่น แล้วก็เป็นข้อเสนอในการขายรถ


“เรื่องเสียภาษีปีเท่าไหร่ มีน้ำหน้ามาพูดกับผม มาถามผม ผมบอกเลยว่าตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 จนถึง ปี พ.ศ.2568 ผมเสียภาษี ทั้ง ภ.ง.ด.30 ทั้ง ภ.ง.ด.50 ทั้งค่าภาคหลวงให้กับรัฐไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท”


ผมก็อยากจะถามว่าอย่างนี้ผมเสียภาษีมากพอหรือยัง แล้วผมมีสิทธิ์ที่จะพูดมั๊ย ผมมีสิทธิ์พูด มีสิทธิ์ที่จะทักท้วง ท้วงติงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนจังหวัดสงขลา


“ไม่ใช่มีสาเหตุโกรธเคืองกับคุณสุพิศ หรือว่าโกรธเคืองกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเป็นการส่วนตัว ผมยืนยันไม่มีอย่างแน่นอน ไม่มีเลย”


เรื่องรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา “รองฉัตรเพชร ครุอำโพธิ์ กับสส.สมยศ เขาไปร่วมบริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาหรือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรนั้น


“ผมไม่ได้มีส่วนรับรู้ตรงนั้นเลย ในเมื่อเขาก็บรรลุนิติภาวะแล้ว เขาก็มีลูก มีครอบครัว มีอะไร ก็ความคิดเขา ส่วนเขาจะไปอยู่ตรงไหน เราก็ไปชี้แนะชี้นำเขาไม่ได้”


เราไม่ได้มีเรื่องสาเหตุโกรธเคืองอะไรกับเขาเลย อะไรที่เขาทำดีเราก็ชื่นชม ถ้าเขาทำไม่ดี เราก็มีสิทธิ์ที่จะติติง อย่าให้เขาตระกูลเราไปเสียหาย แล้วก็ที่ผมพูด ผมพูดให้คุณสุพิศ มองว่า ประชาชนมาเป็นที่ตั้ง มาคิดทำเพื่อประชาชน เพราะคุณสุพิศ และที่ผมออกมาพูด ผมไม่ได้ว่าคุณสุพิศโกงนะครับ เดี๋ยวจะมองว่าผมพูดว่าคุณสุพิศโกง ผมได้บอกว่าเขาโกงนะครับ แต่ผมบอกว่า ดีเคนเรามีสิทธิ์คิดต่างกัน


“การที่เขากำหนดขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR) ขึ้นมา เขาก็มีคณะกรรมการกำหนดราคากลางจำนวน 5 คน ซึ่งประกอบด้วยนายช่างเครื่องกลทั้งนั้นเลย”


ผมก็อยากจะถามว่าคุณคิดได้อย่างไร คุณคิดได้ยังไง ผมตั้งคำถาม เมื่อกับครั้งที่แล้วที่ผมพูด คุณสุพิศ แกบอกว่าแกสามารถจ้างได้ 790 บาทต่อ 1 ชั่วโมง ในขณะที่เอกชนข้างนอกเขาคิดกันชั่วโมงละ 1,500 บาท


ครั้งที่แล้ว ผมพูดมันอาจจะไม่ลงรายละเอียด แต่คราวนี้ผมลงรายละเอียดเพื่อให้เห็น เพื่อให้ชัดเจนไปเลย สมมุติฐานเบื้องต้นชั่วโมงละ 790 บาทตามคณะกรรมการกำหนดราคากลางหรือคุณสุพิศคิด


“น้ำมันจำนวน 15 ลิตรต่อ 1 ชั่วโมง รวมแล้ว 450 บาท แล้วค่าขนย้ายเครื่องจักรของเอกชนเขาย้ายเองจะไม่มีค่าใช้จ่ายย้ายฟรี แต่ของอบจ.เช่า ก็ต้องคิดเงินวันละ 9,500 บาท ตาม TOR ที่ต้องทำอย่างน้อย 7 ชั่วโมง ตกชั่วโมงละ 1,377 บาท นี่เฉพาะค่าย้ายเครื่องจักร เพราะรถมี 12 คัน ไม่ใช่โครงการหนึ่งไปทำวันเดียวสองวันเสร็จ บางทีอาจจะต้องใช้เวลา 4-5 วัน”


แล้วช่วงที่ไม่มีงานย้าย รถเทเลอร์จอดเราจ่ายค่าเช่ามั๊ย คำตอบคือต้องจ่าย แต่ของเอกชน 1,500 บาทต่อหนึ่งชั่วโมง เราไม่ต้องไปยุ่งอะไรเลย ตกแล้ว 1,377 บาท


ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ น้ำมันที่นำไปส่งให้กับเครื่องจักรนั้น อบจ.จะต้องเช่ารถ เช่าแล้วต้องไปส่ง ทีนี้ผมครับว่ารถ 12 คัน ไม่ได้ไปอยู่กันที่เดียว แต่มันกระจายไปตามจุดต่าง ๆ


“รถ 12 คัน บอกผมสิครับว่า รถน้ำมันคันเดียวคุณสามารถนำส่งน้ำมันให้กับรถ 12 คัน วันเดียวคุณส่งได้ทันหรือไม่ คำตอบคือไม่ทัน ถ้าไม่ทันแล้วเครื่องจักรจอดต้องจ่ายค่าเช่ามั๊ย ก็ต้องจ่ายค่าเช่าถูกมั๊ยครับ”


ค่าขนส่งรถน้ำมันนี่ตกชั่วโมงละ 1,065 บาท เพราะฉะนั้น รวม ๆ ทั้งค่าน้ำมัน ที่คุณสุพิศ บอกว่า 790 บาทต่อชั่วโมง ค่าขนย้ายตกชั่วโมงละ 3,680 บาท ไม่ใช่ 790 บาท


แต่ถ้าเราของเอกชนชั่วโมงละ 1,500 บาท เขาย้ายรถเขาย้ายตอนกลางคืน เขาไม่ย้ายตอนกลางวัน เพราะกลางวันมันไม่มีที่เขาจะมาย้ายกันตอนกลางวัน อาจจะบ้าง น้ำมันเขาก็ส่งไป


ทีนี้ อบจ.ตาม TOR ต้องทำงานอย่างต่ำวันละ 7 ชั่วโมง หรือเดือนละ 210 ชั่วโมง ผมก็บอกว่าในฐานะที่ผมเป็นผู้ประกอบการรายหนึ่ง 210 ชั่วโมงยังไงก็ทำไม่ได้ ยังไงก็ทำไม่ได้

“คนขับรถมันจะขยันอยู่หน้างานเลยเหรอ ไม่มีครับ ผมนี่ผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาเยอะแล้ว สมัยก่อนผมทำถนนที่จังหวัดพังงา ไปออกจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผมต้องไปสร้างที่พักชั่วคราวอยู่ถึงจะทำงานได้เต็มที” เถ้าแก่หลี เปิดประสบการณ์ในฐานะผู้เคยประมูลงานราชการ และอยู่ในธุรกิจที่ใช้เครื่องจักรกลมากว่า 50 ปี และว่า


ถ้าทำงานแบบนี้ยังไงก็ไม่ได้ แล้วเวลาขนย้ายเครื่องจักรไป ผมถามสิครับว่า ค่าเช่าต้องจ่ายมั๊ย พอขึ้นรถติดเครื่องทิ้งไว้ชั่วโมงการทำงานก็เริ่ม งานไม่ได้ทำแต่ชั่วโมงการทำงานขึ้น


อย่างนี้ผมบอกได้เลยว่าคนให้เช่าเครื่องจักรยิ้มหวานหมูเลย ถ้าซื้อเครื่องจักรเป็นของอบจ.เองใช้เงิน 65 ล้านบาท แต่ถ้าเช่า 5 ปี แพงไป 200 เปอร์เซ็นต์ 198 ล้านบาท ผมถามว่าคุณสุพิศเช่ามั๊ย หรือว่าซื้ออันไหนจะดีกว่า


สรุปให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า ถ้าของเอกชน 1,500 บาท เขารวมทุกอย่าง รวมน้ำมันแล้ว แต่ของอบจ.เขาไม่ได้รวม ค่าขนย้าย ถ้าเอกชนเขาย้ายเอง ค่าขนส่งน้ำมันเขาก็ขนส่งเอง


ถ้าเราเช่าของเอกชนอย่างน้อย ๆ ค่าบรรทุกเชื้อเพลิงกับค่าคนขับ 2 อย่าง คุณประหยุดเงินไปได้ถึง 20 ล้านบาท


“ผมแปลกใจมาก ว่าทำไมถึงต้องมาเช่า ช่วยชี้แจงหน่อย แล้วถามว่าผมสันนิษฐานอย่างไง กับการเช่าเครื่องจักรพร้อมคนขับ 5 ปีของ อบจ. ผมก็หัวเราะ ครั้งที่แล้วผมก็หัวเราะ”


แต่ถ้าผมอยู่ในสภาฯผมจะพูดเลย เพราะมันมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่นี่ผมพูดข้างนอกเขาก็ฟ้องผมสิครับ เรื่องนี้เขาประมูลกันเสร็จอดีตนายก อบจ. ผมโทรไปถามเขาว่า


“รู้จักบริษัทที่ชนะการประมูลเช่าเครื่องจักรกับอบจ.สงขลา หรือไม่ เขาตอบว่า รู้จัก และอธิบายให้ฟังว่าบริษัทที่ชนะการประมูลเมื่อก่อนขายเครื่องสูบน้ำให้กับกรมชลประทาน และเคยจะมาทำโครงการนี้ ตนไม่ทำ ข้าราชการบอกว่าจะติดคุก แต่มาครั้งนี้แปลกใจว่าทำไมจึงมีโครงการนี้ ที่บอกว่าแปลกใจ ทำไมข้าราชการทำไมถึงใจอ่อนวูบวาบกันแบบนี้” นั่นคือคำกล่าวของอดีตนายก อบจ.


ผมอยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ ดูตัวอย่างเวลามีเรื่องขึ้นมา อบจ.สงขลาก็เห็นกันอยู่ มีอดีตปลัดอบจ.สงขลา คนหนึ่งศาลอาญาทุจริตตัดสินจำคุก อุทธรณ์ขอลดโทษ หัดเป็นลูกผู้ชายหน่อย เวลาทำผิดไม่กลัว แต่พอศาลตัดสินให้จำคุกอุทธรณ์ขอลดโทษ


“คนที่ทุจริตผลที่ได้รับทุกคนก็รู้อยู่แล้ว ว่าเป็นอย่างไร”


อยากจะเรียนกับสื่อมวลชนว่า เรื่องโครงการเช่าเครื่องจักรของอบจ.สงขลา ต่อจากไปจะไม่พูดแล้ว เพราะในเมื่อคนจังหวัดสงขลาเรามีคนดีมากมาย แต่คนกล้าหายากเหลือเกิน ไม่กล้าที่จะออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่กล้าที่จะออกคัดค้าน


“มีนายกอบต.หลายคนโทรศัพท์มาหาผมชื่นชมว่าพี่หลีพูดเรื่องจริง บอกว่านั่งอยู่กับนายกอบต. 4-5 คน ทุกคนชมว่าพี่หลีพูดได้ตรงประเด็น ผมก็ถามว่าแล้วทำไมพวกมึงไม่พูดบ้างล่ะ เขาบอกว่าใครจะกล้าพูด”


กระแสสังคมหลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อครั้งที่ผ่านมา ผมไปนั่งกินข้าว ไปนั่งตรงไหน คนที่เขารู้จักผม หรือได้ติดตามข่าวเข้ามาขอจับมือพร้อมกับบอกว่าเถ้าแก่หลีสุดยอดเลย หาคนแบบเถ้าแก้หลีไม่ได้


“มีญาติคุณสุพิศ อย่างน้อย ๆ 3 คน มาชื่นชมผมแล้วบอกว่าเห็นด้วยกับผม เห็นด้วยกับโก ว่าทำไมอบจ.ถึงไม่ซื้อ”


ฉะนั้น การที่ออกมาพูดเรื่องนี้ไม่ได้มีเหตุโกรธเคือง ทำดีก็ชื่นชม ทำไม่ดีก็ท้วงติง ให้แก้ไข ให้ปรับปรุง คุณสุพิศ อาจจะไปฟังข้อมูลมาจากลูกน้องหรือว่าเป็นความคิดของใครก็แล้วแต่


แต่ว่าอย่างที่ผมพูด เรื่องมันมีลึกกว่านี้อีก ถ้าผมพูดออกมาทุกคนจะต้องร้องว่าเป็นไปได้เหรอ และในอนาคตถ้าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญไปให้ข้อมูลเรื่องนี้ ผมก็ยินดีไปให้ข้อมูล เพราะผมทำหน้าที่พลเมืองดี เขาไม่ได้เอาผมไปผูกคอ ผมจะได้ไปกลัว ฉะนั้น ยินดีเป็นอย่างยิ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวจะเชิญผมไปให้ข้อมูล และผมก็จะให้มูลตามความจริงทุกประการ


“ผมถามว่าทุกวันการทุจริตในองค์กรของรัฐ ในหน่วยงานราชการหรือว่าอะไรที่ได้เบ่งบานขึ้นมาเพราะอะไร ก็เพราะว่าผู้รักษากฎหมาย ผู้ทำหน้าที่ในการปราบโกง ปราบทุจริตทำงานช้ามาก”


ลองทำให้รวดเร็วเหมือนกับสรรพากรเวลาขึ้นภาษี ผมรับประกันได้เลยว่าข้าราชการไม่กล้าทำ แต่ปัจจุบันไปร้องเรียนก็แล้ว อะไรก็แล้ว เพื่อนผมคนหนึ่งไปร้องเรียนว่ามีคนบุกรุกที่หลวง เจ้าหน้าที่ ๆ เกี่ยวข้อง บอกว่า คุณไปถ่ายรูปผู้รุกมา บุกรุกแปลงไหน ชื่ออะไร อย่างไร มันก็โทรมาถามผม ผมก็บอกว่า มึงไป แต่เอาโลงไปด้วย คนที่มีหน้าที่ทำ ดันไม่ทำ


วันนี้เรื่องโครงการเช่าเครื่องจักรอบจ.สงขลา มีคนติดตามเยอะมาก แล้วต่อไปก็จะมีการตรวจสอบ สำหรับผู้บริหารไปเป็นไรเพราะไม่ได้มีลายชื่อลงนาม แต่ระดับเจ้าหน้าปฏิบัติจะลำบาก


“อยู่กรมปกครองส่วนท้องถิ่นดีอยู่แล้ว ถ้าอยากจะย้ายไปอยู่กรมราชทัณฑ์ก็ต้องปล่อยไป เลือกเอาว่าจะไปอยู่ที่ไหนระหว่างกรมปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกรมราชทัณฑ์” เถ้าแก่หลี บอก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *