สถาบันทักษิณจัด‘วันข้าวสงขลา’เชิดชู”วิถีเกษตร”ผ่านการทำนายุคใหม่

เฟรมข่าวไอเน็ท เว็บ เปลี่ยน 2

สถาบันทักษิณคดีศึกษา ร่วมกับ มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน ประเทศไทย โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ภาคใต้ และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ท่าข้าม จัด “วันข้าวสงขลา” เมื่อ 1 มิถุนายน 67 ณ ทุ่งนาหลาต้นโด ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นำเสวนาโดย นายเทพรัตน์ จันทพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา นายสินธพ อินทรัตน์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.จรูญ หยูทอง คอลัมนิสต์ นักวิชาการอิสระ และเครือข่ายเกษตรกรจ.สงขลา ดำเนินการเสวนาโดย นายบัญชร วิเชียรศรี นักวิชาการศึกษา ศูนย์กิจการนานาชาติและสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

S 34299981 0

นางสิริน ชีพชัยอิสสระ เจ้าของแบรนด์ IRIN นักวิชาการและที่ปรึกษาอิสระ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงาน ซึ่งได้มีการพูดคุยและทำงานร่วมกันของเครือข่าย จึงเกิดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อต้องการเชิดชูให้ความสำคัญกับการทำนาข้าว การอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นเมือง การสืบสานวิถีชาวนาในยุคสมัยใหม่ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้

“เรามี โรงเรียนท้องนา เขาคูหา อ.รัตภูมิ ตัวแทนชาวนาทั้ง 5 ลุ่มน้ำจังหวัดสงขลา จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย ลุ่มน้ำทะเลสาบ ระโนด ตัวแทนลุ่มน้ำรัตภูมิ และตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรในจังหวัดสงขลา เข้าร่วม” นางสิริน กล่าว และว่า

มีกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการทำนาปลอดสารพิษที่สามารถสร้างเศรษฐกิจภายในครัวเรือนได้ โดยใช้พันธุ์ข้าวของท้องถิ่น และพันธุ์ข้าวที่ได้รับการพัฒนา

”ยกตัวอย่างมีพันธุ์ธรรมศาสตร์ เป็นข้าวหอมมะลิที่พัฒนาสายพันธุ์โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีความน่าสนใจ หรือข้าวพันธุ์ลูกปลาของจะนะ ฯลฯ”

S 34299989 0

นางสิริน กล่าวต่อว่า วันนี้เกษตรกรต้องพัฒนาการทำเกษตร ต้องสร้างแบรนด์ของตนขึ้นมา การมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อการทำตลาดของตนเองซึ่งขณะนี้มีหลายกลุ่ม หลายคนที่เขาทำนาแล้วขายได้ราคาดี คือทำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นั่นคือเริ่มจากการผลิตที่ปลอดภัย อาจไม่ต้องมีมากมาย การติดต่อลูกค้า การให้ข้อมูลแก่ลูกค้า ลูกค้าพอใจ ถูกใจและมีความปลอดภัย

การทำนาในยุคใหม่ไม่เพียงแต่ได้ผลผลิต แต่ยังได้การท่องเที่ยว สร้างความสุขใจ ซึ่งทุกวันนี้คนเราต้องการมาก จะเห็นได้ว่าการทำนาในสมัยโบราณมาเป็นวิถีที่ผูกพันในหลายมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่เป็นการดำรงชีพอย่างมีความสุข การอยู่กับธรรมชาติที่ร่มรื่น การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เหมือนที่ อ.จรูญ พูดถึงการสร้าง “หลา” หรือศาลาที่ริมท้องนาเพื่อให้คนได้พักผ่อนระหว่างทาง การมี “เผล้งน้ำ” ไว้สำหรับคนผ่านทางดื่มกิน เป็นวิถีที่ไม่เบียดเบียน แต่อยู่กันอย่างกลมกลืนมีความสุข

S 34299990 0

“งานนี้ก็เป็นการรวมตัวกันพูดถึงการปลูกข้าวทำนา การทำบุญพบปะ มากินข้าวใหม่กันตามวิถีของชุมชน เหมือนที่ “อาจารย์โต” เทพรัตน์ บอกว่า ภาคใต้จะเริ่มเก็บข้าวในช่วงนี้เสร็จสิ้นประมาณต้นเดือนมิถุนายน จึงจัดเวทีนี้ขึ้น“

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *